จากการริเริ่มโครงการพี่สอนน้อง "ปลูกปัญญา…พร้อมมอบความอบอุ่น" 84 โรงเรียน เป็นโครงการที่ส่งเสริม และสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เด็ก และเยาวชนทั่วประเทศ ผ่านกิจกรรมให้ความรู้ การมอบสิ่งของที่จำเป็น เช่น อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ อีกทั้งมีกิจกรรมอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ และพัฒนาศักยภาพครูผู้สอน รวมถึงยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาของเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร และในพื้นที่ขาดแคลนอีกด้วย
สำหรับการเดินทางแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ตลอดระยะเวลา 6 ปีของโครงการพัฒนาครูจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับการเปลี่ยนผ่านแห่งยุคเทคโนโลยีดิจิทัล ปัจจัยหลักของการขับเคลื่อนการศึกษาไทย คือ การพัฒนาศักยภาพของครู จึงทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของ "โครงการพัฒนาครู มุ่งสู่การเรียนรู้ เพื่ออนาคต" รุ่นที่ 1 ซึ่งโครงการนี้ดำเนินการควบคู่ไปกับโครงการพี่สอนน้อง โดยมูลนิธิฯเล็งเห็นว่า ครู เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญต่อการศึกษาของเด็ก และเยาวชน เพราะการมีครูที่ดี 1 คน สามารถจะสร้างนักเรียนให้เติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่ดีได้อีกหลายคน ดังนั้น หากจะพัฒนาการศึกษาไทยให้มีคุณภาพ ครูจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นต้องมีการพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนานักเรียน
นำโดย ผู้ก่อตั้งโครงการ ดร.ชลิดา อนันตรัมพร ประธานมูลนิธิอินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ จัดทำโครงการพัฒนาครู เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และเพิ่มศักยภาพของครูให้มีประสิทธิภาพในการสอนมากขึ้น ร่วมบรรยายผ่านกิจกรรมในหัวข้อ "การสร้างครูที่ดี 1 คน สามารถสร้างนักเรียนที่ดีได้หลายคน" พร้อมรับฟังความรู้ หลักสูตรพัฒนาครู รูปแบบ "Active Learning for the Future" จาก ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และคุณญาณิก ฤกษ์โอภาส นักพัฒนา และฝึกอบรม มาร่วมเป็นวิทยากรรับเชิญในครั้งนี้ โดยได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม จากผู้อำนวยการ ครู และบุคลากร จากสถาบันการศึกษา ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ทั่วภูมิภาคในประเทศไทย จำนวนรวมกว่า 59 โรงเรียน จำนวนครูผู้เข้าอบรม 82 ท่าน เข้าร่วมรอบรมทั้งในรูปแบบ On line และ On Site ระหว่างวันที่ 12 - 13 พฤศจิกายน 2565 ณ ชลพฤกษ์ รีสอร์ท จังหวัดนครนายก
"แนวคิดที่ได้ริเริ่มโครงการฯนี้ เป็นการถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 รวมถึงเป็นการนำร่องพัฒนา ส่งเสริมความรู้การสอนของครูให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยสร้างเสริมครูผู้สอนให้มีแรงบันดาลใจ และมีความภูมิใจในการเป็นครูอย่างเต็มภาคภูมิ เนื่องด้วยในยุคปัจจุบัน โลกแห่งเทคโนโลยีได้พัฒนาไปอย่างก้าวล้ำ ดังนั้น การปรับตัว ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ เพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัล จะต้องรวดเร็ว ก้าวให้ทัน และต้องก้าวหน้า ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องตอบโจทย์แก่การนำองค์ความรู้ที่ได้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อนำพา ครู ผู้เป็นบุคลากร ที่เปรียบดั่งรากฐานสำคัญของประเทศ และเป็นอีกองค์ประกอบหลักที่จะพัฒนานักเรียนให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ดั่งปณิธานที่ตั้งมั่นของโครงการฯว่า "การสร้างครูที่ดี 1 คน สามารถสร้างนักเรียนที่ดีได้หลายคน" อีกทั้งเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา และสามารถนำไปต่อยอดออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมให้เด็กในประเทศของเราพัฒนาได้เทียบเท่าเด็กในระดับนานาชาติต่อไปได้อีกด้วยค่ะ" ดร.ชลิดา กล่าวเสริมตอนท้าย
ที่มา: อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น