แพทย์อายุรกรรมโรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เผยแนวโน้มคนไทยในปัจจุบันเป็นโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้นทุกช่วงอายุ จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่อาจทำลายสุขภาพ ส่งผลให้เบาหวานมาเยือนไม่รู้ตัว แนะ "ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน-มีภาวะโรคอ้วน-อายุ 35 ปีขึ้นไป" ต้องตรวจคัดกรองเบาหวาน พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ชีวิต ช่วยลดความเสี่ยงให้ชีวิตห่างไกลจากโรคเบาหวาน
แพทย์หญิง กนิษฐา รัตนพรสมปอง แพทย์อายุรกรรมโรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ (CHG) เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคเบาหวาน ว่า พบผู้ป่วยทั่วโลกกว่า 400 ล้านคนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับประเทศไทยที่พบผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 3 แสนคนต่อปี และมีผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่ในระบบทะเบียนของกระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 3.2 ล้านคน โดยโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ หรือร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้อวัยวะเสื่อมสมรรถภาพ และทำงานล้มเหลว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้
ทั้งนี้ ชนิดของโรคเบาหวาน สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. เบาหวานที่เกิดจากการขาดอินซูลิน เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้ ส่วนใหญ่จะพบในเด็กและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ 2. เบาหวานที่เกิดจากภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้อินซูลินที่ทำหน้าที่ลดระดับน้ำตาลในเลือดทำงานได้ไม่ดี ทำให้ตับอ่อนต้องผลิตอินซูลินออกมาเพิ่ม ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งหากรู้ตัวและ ดูแลรักษาตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาให้โรคสงบได้ 3 .เบาหวานเกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์ มักเกิดในผู้ที่ไม่มีประวัติเป็นเบาหวานมาก่อนหรือไม่เคยทราบว่าตัวเองเป็นเบาหวาน และ 4 .เบาหวานจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ความผิดปกติของสารพันธุกรรม การทานยา และโรคของทางตับอ่อน
สำหรับสาเหตุของโรคเบาหวานนั้น มีหลายปัจจัยร่วมกันทั้งจากพันธุกรรม และการใช้ชีวิตประจำวัน โดยผู้ที่ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป มีน้ำหนักเกินหรือภาวะโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง ดื่มสุรา-สูบบุหรี่ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็นเบาหวาน อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ คอแห้ง กระหายน้ำบ่อย กินจุกว่าเดิม น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นแผล แต่หายช้ากว่าปกติ อ่อนเพลีย มีอาการตาพร่ามัว มองไม่ชัด ผิวหนังแห้งคัน รู้สึกชาบริเวณปลายนิ้วมือ-นิ้วเท้า ขอให้รีบไปพบแพทย์ เนื่องจากเป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน
แพทย์หญิง กนิษฐา กล่าวเพิ่มเติม ว่า โรคเบาหวานเป็นภัยเงียบของคนไทยที่ทำร้ายสุขภาพทำให้ระบบการทำงานของร่างกายทั้งระบบเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้ตัว และมีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยทำงานจะมีอัตราความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานมากขึ้น จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน มีภาวะความเครียด ขาดการออกกำลังกาย และการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ฉะนั้นการป้องกันก่อนเกิดเบาหวานคือสิ่งที่สำคัญ หากประชาชนทุกคนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ดูแลใส่ใจสุขภาพกายและใจอย่างสม่ำเสมอ พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็ย่อมช่วยให้ห่างไกลจากโรคเบาหวานได้
ทั้งนี้ ในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ได้จัดให้มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ร่วมให้การรักษาและให้คำแนะนำกับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง ตลอดจนมีทีมสหวิชาชีพมาคอยให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ ด้วย รวมถึงการให้บริการตรวจวัดระดับความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดเพื่อคัดกรองและวินิจฉัยว่าร่างกายมีอัตราเสี่ยงเป็นเบาหวานหรือไม่ โดยใช้การเจาะเลือดวัดระดับน้ำตาลหลังอดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ซึ่งค่าระดับน้ำตาลปกติจะอยู่ระหว่าง 70-100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ค่าระดับน้ำตาลที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานจะอยู่ระหว่าง 100-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และหากเกิน 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ถือว่าเข้าเกณฑ์โรคเบาหวาน
อย่างไรก็ตาม สาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดโรคเบาหวานเกิดจากพฤติกรรมและการใช้ชีวิตเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการหันกลับมาดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต พร้อมดูแลสุขภาพให้มากขึ้น หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ การพักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมถึงเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพลดการทานเนื้อสัตว์ เช่น อาหารคีโต อาหารวีแกนและอาหารจากพืช Plant-based ล้วนมีประโยชน์ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ตลอดจนการตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองเบาหวานอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
"โรคเบาหวาน นับเป็นอีกภัยเงียบที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตของคนไทย ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการ โดยโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ พร้อมให้บริการรักษาและให้คำปรึกษา พร้อมรณรงค์ให้คนไทยทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้น เพื่อให้ชีวิตห่างไกลจากโรคเบาหวาน" แพทย์หญิง กนิษฐา กล่าว
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น