ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สแกน อินเตอร์ หรือ SCN ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ พลังงานทดแทน และขนส่งแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 21.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 637.94% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 ที่มีกำไรสุทธิ 2.9 ล้านบาท และมีรายได้ 343.4 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้ 1,058.95 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 324.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 666.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 41.41 ล้านบาท
การเติบโตที่เพิ่มขึ้นเกิดจากความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการและการเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตในทุกมิติของ SCN จากการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ทั้งธุรกิจก๊าซที่ยังได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่พุ่งส่งขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทน (Renewable Energy) ที่เริ่มรับรู้รายได้และได้รับกำไรส่วนแบ่งจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
"ผลประกอบไตรมาส 3 นี้ถือว่ามีความโดดเด่น เติบโตในทิศทางที่ดีในทุกธุรกิจ และสะท้อนภาพรวมของการดำเนินธุรกิจของ SCN ได้เป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าจะทำให้ทิศทางแนวโน้มทั้งรายได้และกำไรจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" ดร.ฤทธี กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา มีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ธุรกิจพลังงานทดแทน (Renewable Energy) ที่ดำเนินการโดยบริษัทสแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด (SAP) ได้รับโครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มขึ้นอีก 2 โครงการ ทำให้ปัจจุบันมี COD ทั้งสิ้น 22 โครงการและมีขนาดกำลังผลิตรวม 19 เมกะวัตต์
ขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาตินั้น ก็ถือว่ายังมีการเติบโตที่ดี ปริมาณความต้องการใช้ก๊าซยังอยู่แนวโน้มที่ดี จากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานทางเลือก และที่สำคัญบริษัทน่าจะได้รับอานิสงส์ด้านการตลาดและขยายกลุ่มลูกค้า ภายหลังจากการที่ บริษัท TOHO GAS ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซธรรมชาติอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน โดยผ่านการถือหุ้นในบริษัท Thai ST Energy Investment Company ซึ่งถือหุ้นร่วมกันระหว่าง TOGO GAS และ Shizuoka Gas และลงทุนในบริษัทเครือข่ายก๊าซ ไทย-ญี่ปุ่น จำกัด (TJN) โดยทั้ง 2 บริษัทจากญี่ปุ่นถือว่าเป็นผู้นำในธุรกิจก๊าซและมีฐานลูกค้าในประเทศไทยที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าจะมี่ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 MMbtu ต่อวัน
ด้านธุรกิจอื่นๆ ถือว่าเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่น่าพอใจและสะท้อนให้เห็นถือทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน ทำให้แนวโน้มรายได้และกำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: ธามดี พลัส