นายวีระพงค์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำยาซักรีด น้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสำหรับภาคอุตสาหกรรม เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80 ล้านบาท หรือ 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (yoy) และกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17 ล้านบาท หรือ 239% เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคส่วนของการท่องเที่ยวหลังรัฐบาลประกาศให้โรคไวรัสโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งโรงแรมและร้านอาหารปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ รวม 248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79 ล้านบาท หรือ 46% และมีรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาท หรือ 50% โดยบริษัทฯ ยังคงมีรายได้หลักจากการขาย 202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59 ล้านบาท หรือ 41% แบ่งเป็นจากรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักรีด 19 ล้านบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว 21 ล้านบาท และกลุ่มผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำ 10 ล้านบาท จากปัจจัยการท่องเที่ยวภายในประเทศฟื้นตัว ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม กลับมาดำเนินการตามปกติ
สำหรับ รายได้จากการให้เช่าและบริการ บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 ล้านบาท หรือ 76% แบ่งเป็นรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำ 7 ล้านบาท และรายได้ค่าเช่าจากผลิตภัณฑ์ด้านครัว 11 ล้านบาท
" ในไตรมาส 3 หลังจากรัฐบาลประกาศให้โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น นับเป็นผลดีอย่างมากต่อธุรกิจการท่องเที่ยว ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารกลับมาเปิดบริการตามปกติอย่างคึกคัก ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯ มีสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/65 ยังดีต่อเนื่อง คาดผลงานในปี 2565 จะยังคงรักษารายได้ให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ รับอานิสงค์นโยบายเปิดประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล" นายวีระพงค์ กล่าว
นายวีระพงค์ กล่าวต่อว่า ในฐานะผู้นำเทคโนโลยี Cleaning Hygiene Solutions กลุ่มธุรกิจ Hospitality & Food Industry ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทฯ ยังคงเน้นย้ำในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น (Green Product) รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้กับเครื่องจักรและพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และกระแสรักษ์โลกที่มีอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในปี 2566 บริษัทฯ จะเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม ทั้งการเพิ่มสินค้า การเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า และหาพันธมิตรเพิ่มเติมในการจัดหน่ายสินค้าของบริษัทฯ เนื่องจากมองว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังเวียดนามเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีของ PRAPAT ในการขยายธุรกิจเพิ่มในต่างประเทศ
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น