นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565) บริษัทฯ มีรายได้หลัก 8,344 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 962 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 915 ล้านบาท ขณะที่มีกำไร (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่) 956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีที่กำไร 913 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้หลัก 21,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้หลัก 19,685 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,884 ล้านบาท ขณะที่มีกำไร (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่) 2,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 1,875 ล้านบาท
"ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากการรับรู้รายได้ จากโครงการภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องตามแผนงานและกำหนดการ อีกทั้ง Product mix ที่ปรับตัวจากการมุ่งเน้นกลุ่มสินค้า High Margin โดยยอดขายเติบโตในทั้งประเทศไทย เวียดนามและ ตลาดต่างประเทศ (international markets) ตลอดจนนโยบายในการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการร่วมกันของกลุ่มบริษัทอย่างมีระบบ (Integrated Supply Chain Management)" นายประกรณ์กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง โดยจะมาจากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ล ที่ตลาดยังเติบโตได้ทั้งจากการขยายตัวของความต้องการไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ การขยายตัวของ Renewable Energy (RE) ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่หนึ่งหมื่นกว่าล้านบาท และมีงานที่กำลังอยู่ระหว่างการประมูลติดตามอยู่อีกมาก ทั้งในประเทศไทย เวียดนามและต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงตอกย้ำการเติบโตจาการดำเนินธุรกิจปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง และมุ่งแสวงหา New S-curve ให้กับธุรกิจตลอด เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
ที่มา: สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น