นางสาวศุภสรา จงกลรัตนาภรณ์ รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มหาจักร อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวย้อนถึงจุดเริ่มต้นการเข้าถือหุ้น 2.5% ในบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ว่า จุดประสงค์ของบ้านเคหะสุขประชาเกิดขึ้นมาจากความตั้งใจจริงที่ต้องการช่วยเหลือสังคมไทย โดยเฉพาะการสร้างคุณค่าของพื้นฐานความเป็นอยู่ อย่างการมีบ้าน ที่เป็นองค์ประกอบหลักของครอบครัวที่อบอุ่น หรือการมีอาชีพ ที่เป็นจุดเริ่มของการยกระดับคุณภาพชีวิต
"เราได้มีมุมมองถึงปลายทางแล้วว่าโครงการนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้สังคมอย่างไร ภายใต้การดำเนินการทั้งในด้านที่พักอาศัย ให้ครอบครัวได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เพื่อช่วยแก้ในจุดที่เป็นปัญหาทางครอบครัว อีกอันหนึ่งคือเรื่องการสร้างอาชีพสร้างรายได้เพื่อรองรับรายจ่าย แก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืม และแน่นอนว่าเมื่อพื้นฐานความเป็นอยู่ดีขึ้น สังคมและเศรษฐกิจที่ดีในประเทศก็จะตามมา ซึ่งประโยชน์ที่เกิดกับคนหมู่มากนี้ นับเป็นความสุขของมหาจักร อิเล็คทริคฯ ในการได้ทำสิ่งดี ๆ ร่วมกับเคหะสุขประชา"
บริษัท มหาจักร อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านออกแบบระบบเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบครบวงจร ทั้งบริการด้านลิฟต์ แบรนด์ Shanghai Mitsubishi และแบรนด์ Pioneer ที่ได้รับรองมาตรฐาน EN 81, ISO 14001, ISO 18001 เทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำในระดับสากล และเป็นตัวแทนจำหน่ายบริการระบบจอดรถอัตโนมัติ แบรนด์ AJ APS จากประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงมีความเชี่ยวชาญธุรกิจด้านการพัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ตอบโจทย์การลดใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
โดย นายณัฐวัฒน์ วิเศษเด่นชัย ประธานกรรมการ บริษัท มหาจักร อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า บริษัทไม่ได้คาดหวังกำไรจากการเข้าถือหุ้นเคหะสุขประชา เราเข้ามาเพราะอยากช่วยเหลือสังคมและเชื่อว่าความเชี่ยวชาญที่เรามี จะสามารถสนับสนุนโครงการได้เป็นอย่างดี เช่นการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงาน หรือในอนาคตหากโครงการขยายตัว มีตึกสูง 2 ชั้นขึ้นไปเกิดขึ้น ระบบลิฟต์ก็จะกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยเหลือได้ทั้งกับผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง
"ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตลิฟต์แบรนด์ Pioneer เราจึงสามารถบริหารราคาได้เอง และดำเนินการออกแบบได้เองตามความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว ซึ่งสำหรับโครงการที่มีทั้งผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง หรือผู้พิการอาศัยอยู่มาก "มหาจักร อิเล็คทริค" จะจัดสรรโครงสร้างลิฟต์ตั้งแต่หน้าตึกขึ้นมาที่ชั้นลอยได้เลย เช่นเดียวกับด้านในตึกที่ตัวลิฟต์จะมีขนาดใหญ่ มีพื้นที่สำหรับวีลแชร์ เตียง และความพร้อมอื่น ๆ ในส่วนพื้นกันลื่น ราวจับ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในระดับสูงสุด"
ภายใต้ความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนสังคมผ่านโครงการเคหะสุขประชา ประธานกรรมการของ "มหาจักร อิเล็คทริคฯ" ยังแสดงวิสัยทัศน์การปรับตัวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองกับชีวิตยุคโควิด เช่น ระบบ Touchless และตัวฆ่าเชื้อ UV สำหรับฆ่าเชื้อโรคในลิฟต์ หรือด้านการบริหารจัดการต้นทุนราคาแพง เพื่อให้ลูกค้าที่เป็นโรงพยาบาล หน่วยงานราชการ กลุ่มเอกชน และบ้านเคหะสุขประชา ได้รับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไปใช้งานในราคาที่อยู่ในเกณฑ์รับได้ตามสัญญา
"ปัญหาเรื่องต้นทุนสูงเกิดมาจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ที่ทุกคน ทุกประเทศต่างเจอเหมือนกันหมด ทั้งกับสิ่งแวดล้อม สงคราม โควิด เป็นสาเหตุที่อัตราแลกเปลี่ยนและค่าขนส่งวัตถุดิบพุ่งสูงขึ้น ซึ่งบริษัทได้รับมือกับปัญหา โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศอย่างเหล็กหรือสแตนเลสที่ผลิตในไทยได้บางส่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบด้านการส่งงานล่าช้า และเพื่อรักษาความพร้อมรองรับโครงการในตลาดอสังหาฯ ที่จะเริ่มกลับมาเดินหน้าต่อในปี 2566 นี้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ" นายณัฐวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ตลาดลิฟต์และบันไดเลื่อนในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท โดย บริษัท มหาจักร อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด มีส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ที่ 20% หรือ 240 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนลูกค้ารัฐบาล 80% และเอกชนอีก 20% มีสาขาให้บริการ 8 สาขา มีพนักงานประมาณ 200 คน คอยดูแลและให้บริการหลังการขายครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งบริษัทยังเดินหน้าสร้างประสิทธิภาพของการทำงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี
"แนวคิดของโครงการเคหะสุขประชาคือการสร้างบ้านพร้อมอาชีพ ที่มี 6 อาชีพรองรับอยู่แล้ว แต่นอกเหนือจากนั้น ตัวมหาจักร อิเล็คทริคฯ เองก็ได้ส่งเสริมด้านอาชีพเช่นกัน โดยเฉพาะทีมช่างบริการ-ช่างติดตั้ง เปิดกว้างให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการมีอาชีพที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ตัวเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคง"
ที่มา: โฟร์ฮันเดรท