การปรับอัตราค่าโดยสารจะช่วยบรรเทาต้นทุนต่างๆ ของกองทุน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก อันส่งผลให้ราคาต้นทุนสินค้า โดยเฉพาะด้านพลังงาน อัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่สูงขึ้น อัตราค่าจ้างแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้านต่าง ๆ เป็นต้น อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์โควิดที่ทยอยปรับตัวดีขึ้นด้วย ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจะช่วยทำให้กองทุนมีรายได้สุทธิที่เติบโตมากขึ้น
สำหรับอัตราค่าโดยสารราคาใหม่ และโปรโมชั่นค่าโดยสาร เป็นดังต่อไปนี้
1. อัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บ (ปรับเพิ่มขึ้น 1-3 บาท)
จำนวนสถานี0 - 12345678 ขึ้นไปราคาปัจจุบัน (บาท)1623263033374044ราคาใหม่ (บาท)17252832354043472. โปรโมชั่นค่าโดยสาร
2.1 บัตรแรบบิท สำหรับผู้สูงอายุ ปรับลดราคาสูงสุด 50% จากอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บ (17-47 บาท)
จำนวนสถานี0 - 12345678 ขึ้นไปราคาปัจจุบัน (บาท)812131517192022ราคาใหม่ (บาท)9131416182022242.2 บัตรโดยสารประเภท 1 วัน (One-Day Pass) ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวและระยะทาง จากราคา 140 บาท เป็นราคา 150 บาท
2.3 บัตรแรบบิทประเภทเติมเงิน (นอกเหนือจากบัตรในข้อ 2.1) สามารถเข้าร่วมโปรแกรมบีทีเอส ชาเลนจ์ (โปรแกรมสะสมพอยท์จากการเดินทาง เพื่อแลกรับเที่ยวเดินทางฟรี รวมถึงส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ) เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 จนถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2566 นอกจากนี้ ยังเพิ่มคะแนนพิเศษสำหรับ 3 เดือนแรก ในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566
อย่างไรก็ตาม ในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีอ่อนนุช-สถานีเคหะฯ สถานีหมอชิต-สถานีคูคต และสถานีวงเวียนใหญ่-สถานีบางหว้า ซึ่งเป็นส่วนของกรุงเทพมหานคร อัตราค่าโดยสารจะเป็นไปตามประกาศของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอสจะมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ สร้างความมั่นใจ ปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร เพื่อให้รถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นระบบขนส่งสาธารณะทางรางที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในระดับสากลอย่างต่อเนื่องต่อไป
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: กองทุนบัวหลวง