แพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศ (NDTP) เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแพลตฟอร์มในการติดต่อประสานงานส่งและรับเอกสารการค้า ให้การทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกของไทยสะดวก ง่าย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยในเฟสแรกเป็นการทดสอบการใช้แพลตฟอร์มการค้าระหว่างคู่ค้าในประเทศไทยและญี่ปุ่น และประเทศไทยและสิงคโปร์
นางยิ่งลักษณ์ คงคาสัย ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "กรุงศรียินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศ โดยร่วมมือกับลูกค้าที่มีความใกล้ชิดมาอย่างยาวนานอย่าง โตโยต้า ทูโช ในการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลของไทยเข้ากับ TradeWaltz แพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลของญี่ปุ่น และทดสอบกระบวนการติดต่อและส่งมอบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างคู่ค้าของทั้งสองประเทศในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี ลดทั้งเวลาในการทำเอกสารและลดปริมาณเอกสารที่ใช้ เพิ่มความง่ายต่อการประกอบธุรกิจ นับเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการและเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศในระยะยาว กรุงศรีหวังว่าความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนาในขั้นต่อไป เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันให้กับธุรกิจนำเข้าและส่งออกไทย"
นายปราโมทย์ หล่อศรัทธา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส & ประธานสายงานบริหาร บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องในการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลของไทย โดยแพลตฟอร์มดิจิทัลนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ เอื้อประโยชน์ให้กับทั้งภาคการนำเข้าและส่งออกได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ยิ่งไปกว่านั้น เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลนี้จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอีกด้วย"
นายซาโตรุ โซเมยะ Managing Director, Head of CEO's Office and Head of Global & Alliance business dept, TradeWaltz Inc, กล่าวว่า "เราขอขอบคุณทางโตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) และกรุงศรีสำหรับความร่วมมือที่ทำให้การเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย หรือ NDTPและ เทรดวอลซ์ (TradeWaltz) แพลตฟอร์มของญี่ปุ่นประสบผลสำเร็จและเกิดขึ้นจริง เราและโตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) ไม่เพียงร่วมกันยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยการส่งเอกสารทางการค้าผ่านช่องทางดิจิทัล แต่ยังได้มองหาการดำเนินงานในรูปแบบใหม่ๆ อย่างเช่น การทำให้ EPA applications มีความคล่องตัวขึ้นด้วยการใช้เชื่อมโยงเอกสารใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) ระหว่างกัน และการทำให้เห็นภาพการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโลจิสติกส์มีความชัดเจนมากขึ้น และต้องขอขอบคุณกรุงศรีที่เป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่นมายาวนาน รวมทั้งยังมีบทบาทสำคัญที่ทำให้การทดสอบรายการ Proof-of-Concept (POC) ในครั้งนี้เป็นผลสำเร็จและผ่านไปได้ด้วยดี"
ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา