นายมารุต ศิริโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่าสามารถสร้างรายได้กว่า 1,300 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้งานในมือ (Backlog) ที่มีกว่า 2,360 ล้านบาท เทียบสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 1,880 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568 พร้อมกับเริ่มขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่ New S-Curve ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้ประจำ (Recurring Income) และสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า (2566-2568) ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ผ่านธุรกิจด้านพลังงาน โดยประเมินว่าธุรกิจใหม่จะช่วยผลักดักดันรายได้เติบโตต่อเนื่อง
"ทีมผู้บริหารได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาในการต่อยอดธุรกิจและปรับโมเดลธุรกิจใหม่ให้มีความสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจ โดยบริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม อาทิ โปรเจค MACharge ที่เป็นแพลตฟอร์มครบวงจร ทั้ง EV swapping station และ MACharge Application โครงการโซลาร์รูฟท็อปและโซลาร์ลอยน้ำ รวมถึงการจัดจัดหน่ายน้ำดิบผ่านระบบท่อน้ำให้แก่นิคมอุตสาหกรรมผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ"
โดยที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการลงทุนเพิ่มในบริษัท เทอราวัตต์ เอสพี จำกัด จากสัดส่วน 25% เป็น 75% วงเงินไม่เกิน 60 ล้านบาท เพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลภายในช่วงต้นปีหน้า อีกทั้งยังมีแผนเข้ารุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในโรงงานอุตสาหกรรม และโซลาร์ลอยน้ำ โดยวางเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566
ขณะเดียวกัน AMR ยังรุกเข้าสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการดำเนินธุรกิจการขายและให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แพลตฟอร์ม "มาชาร์จ" (MAcharge) ที่มาพร้อมกับสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ และระบบซอฟต์แวร์ ในการบริหารจัดการข้อมูลการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย คาดว่าจะเริ่มเดินหน้าธุรกิจอย่างเต็มที่ในปี 2566 ถือเป็นการเข้ามาเติมเต็มและเปิดมิติใหม่ให้กับธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการให้บริการอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับบริษัท อีสเทิร์น โปร วอเตอร์ซัพพลาย จำกัด (EPW) เพื่อจัดจำหน่ายน้ำดิบให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเริ่มโครงการจากการวางท่อส่งน้ำสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร คาดก่อเสร็จสิ้นกลางปี 2566 พร้อมรับรู้รายได้จากการจำหน่ายน้ำได้ทันที ซึ่งท่อส่งดังกล่าวจะสามารถส่งน้ำได้สูงสุดถึง 70,000 ลบ.ม. ต่อวัน และสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท/ปี บริษัทฯ ยังมีการศึกษาโครงการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจที่จะผลักดันรายได้ขึ้นอีกด้วย
ที่มา: ไออาร์ เน็ตเวิร์ค