แซนดี้จับคู่กับ นักแข่งชาวมาเลเซีย อากาซ แนนดี้ (Akash Nandy) ทั้งคู่ลงประลองศึกครั้งดีด้วยคะแนนเก็บสะสมอันดับที่ 1 ของตารางคะแนนรวม ซึ่งมากกว่าอันดับที่ 2 เพียง 5 คะแนนเท่านั้น
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มต้นด้วยการซ้อมก่อนแข่งเพื่อเซ็ทรถให้ดีที่สุด ผลการซ้อม ทั้งคู่อยู่ใน อันดับที่ต้นของตารางเวลา
ในเช้าวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันควอลิฟายที่ 1 และ 2 และวันแข่งเรซที่ 1 โดยอากาซลงควอลิฟายที่ 1 ผลควอลิฟายเขาทำได้ในอันดับที่ 2 ทำให้การแข่งขันเรซที่ 1 บ่ายวันเสาร์ อากาซจะออกสตาร์ทจากกริดสตาร์ทที่ 2 แซนดี้ลงควอลิฟายที่ 2 อยู่ในอันดับที่ 3 ทำให้แซนดี้จะออกจากกริดสตาร์ทที่ 3 ในการแข่งขันเรซที่ 2 ของวันอาทิตย์
ในช่วงบ่ายวันเสาร์ การแข่งขันเรซที่ 1 เริ่มต้นขึ้น โดยอากาซลงแข่งขันเป็นคนแรก ออกตัวจากกริดสตาร์ทที่ 2 อากาซออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ขึ้นแซงคู่แข่งขึ้นนำเป็นอันดับที่ 1 ตั้งแต่โค้งแรก และรักษาตำแหน่งผู้นำได้ตลอดจนถึงช่วงพิทสตอป (เปลี่ยนตัวนักแข่ง) ตามกฎกติกา เนื่องจากเป็นนักแข่งระดับซิลเวอร์ทั้งคู่ แซนดี้จะถูกหยุดรอที่พิท 135 วินาที ก่อนกลับเข้าลงสนามแข่งต่อ ทั้งคู่ต้องการยืดเวลาให้ห่างจากผู้ตาม 15 วินาที ก่อนถึงช่วงเปลี่ยนตัวนักแข่ง แล้วอากาซก็ยืดระยะห่างได้สำเร็จ ทำให้เมื่อเปลี่ยนมือเป็นแซนดี้ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับที่ 1 เอาไว้ได้ และในช่วง 15 นาทีสุดท้าย แซนดี้และคู่แข่งผลัดกันแซงและบังไลน์อย่างดุเดือด แต่แล้วยางรถของคันนำเกิดการระเบิด จึงไม่สามารถขับจนจบการแข่งขันในเรซนี้และไม่สามารถแข่งขันในวันอาทิตย์ต่อได้ ทำให้แซนดี้คว้าแชมป์อันดับที่ 1 เก็บ 25 คะแนนเต็ม ขึ้นแท่นแชมป์ประจำปีนี้ตั้งแต่การแข่งขันเรซที่ 2 ยังไม่เกิดขึ้น
การแข่งขันในเรซที่ 2 เกิดขึ้นในช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ แซนดี้ออกสตาร์ทตำแหน่งกริดสตาร์ทที่ 2 แซนดี้ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ขึ้นเป็นผู้นำหัวขบวนรุ่นซูเปอร์คาร์ได้ตั้งโค้งแรก แต่แซนดี้โดนปรับโทษ ไดรฟ์ทรู (drive-thru penalty) เนื่องจากเหตุในวันเสาร์ ต่อมารถของแซนดี้เกิดเหตุยางรั่ว จึงต้องกลับเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางก่อนถึงช่วงพิทสตอป (เปลี่ยนตัวนักแข่ง) และเมือเปลี่ยนมือเป็นอากาซ เขาอันดับตกไปแต่อากาซก็พยายามไต่อันดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จบอันดับที่ 9 ในที่สุด อย่างไรก็ตาม คะแนนเก็บของทั้งคู่ยังคงมีมากพอที่จะก้าวขึ้นแท่นแชมป์ประจำปีนี้ได้
แซนดี้ กล่าวว่า "แซนดี้ดีใจมากที่สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ได้สำเร็จ ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เป็นการแข่งขันที่มีอุปสรรคมากมาย แต่เราก็สู้ไม่ถอย รู้สึกภูมิใจในผลงานของตัวเองและทีมเมท คุ้มค่ากับการทุ่มเทอย่างเต็มที่ของเรา ขอขอบคุณสปอนเซอร์ ทีมงาน และทุกคนที่สนับสนุนและเชียร์แซนดี้มาตลอดฤดูกาลนี้ และต่อไปในปีหน้า "
แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งไทย ภายใต้การสนับสนุนจาก เดอะ พิซซ่า คอมปะนี , บี-ควิก , อาวดี้ สปอร์ต เอเชีย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, เจ็ท 8 เอวิเอชั่น , การบินไทย, ไฮป์ ไทยแลนด์, ดาคอน เทรดดิ้ง, ไทยวิงส์ทราเวลเอเจนท์ ,ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย
ที่มา: สตูวิค เรสซิง โปรเจ็ค