สมาคมผู้ส่งออกสารเคมีและเคมีภัณฑ์ตุรกีรุกสร้างพันธมิตรกับบริษัทไทย ขนทัพนักธุรกิจเจรจา "จับคู่ทางธุรกิจ" 16 ธ.ค.นี้

อังคาร ๑๓ ธันวาคม ๒๐๒๒ ๑๐:๑๘
ชูจุดแข็งผลิตภัณฑ์จากประเทศตุรกีถือเป็นสินค้าคุณภาพสูง ผลิตตามมาตรฐานสากล ราคาแข่งขันได้ในตลาดเมื่อเทียบกับสินค้าจากยุโรป ตุรกีมีความได้เปรียบด้านทำเลและมีความน่าเชื่อถือ การส่งมอบสินค้าเป็นไปตามกำหนดแม้แต่ในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดรุนแรง การจับมือเป็นพันธมิตรไทย-ตุรกี ช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อห่วงโซ่อุปทานประสบภาวะชะงักงันในหลายพื้นที่ทั่วโลกบริษัทของตุรกีที่เข้าร่วมงานจะมาจากภาคธุรกิจเคมีภัณฑ์ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เครื่องใช้ในบ้าน  เครื่องครัว อุปกรณ์การแพทย์ ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ยา และอาหารเสริมพร้อมร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงสมาคมผู้ส่งออกสารเคมีและเคมีภัณฑ์แห่งอิสตันบูล (IKMIB) เตรียมจัดงาน 'IKMIB Trade Delegation to Bangkok - B2B Meetings' ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 โดยงานจับคู่ทางธุรกิจในครั้งนี้มุ่งเน้นเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งไทยและตุรกี ตลอดจนช่วยรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดไทย บริษัทไทยที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีเพียงแค่ลงทะเบียนล่วงหน้าที่ www.trademission.biz เท่านั้น
สมาคมผู้ส่งออกสารเคมีและเคมีภัณฑ์ตุรกีรุกสร้างพันธมิตรกับบริษัทไทย ขนทัพนักธุรกิจเจรจา จับคู่ทางธุรกิจ 16 ธ.ค.นี้

นายเจมิล ทาการ์ (Mr.Cemil Cakar) ผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกสารเคมีและเคมีภัณฑ์แห่งอิสตันบูล (IKMIB) และหัวหน้าคณะผู้แทนการค้า IKMIB สู่แดนไทย กล่าวว่า "งานจับคู่ทางธุรกิจจะปูทางไปสู่การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจหรือเปิดทางให้บริษัทไทยและตุรกีได้ผนึกกำลังและยกระดับความสามารถในการแข่งขันผ่านการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริษัทตุรกีทั้ง 29 แห่งที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งจากภาคเคมีภัณฑ์ เครื่องสำอาง & ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เครื่องใช้ในบ้าน & เครื่องครัว อุปกรณ์การแพทย์ & ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ และยา & อาหารเสริม  โดยผู้แทนของบริษัทเหล่านี้จะมานำเสนอผลิตภัณฑ์ตัวอย่างพร้อมแสดงศักยภาพให้เห็นว่าพวกเขาจะสามารถช่วยเสริมแกร่งให้กับพันธมิตรไทยได้อย่างไร"  

"เราจะสร้างเวทีให้ทุกท่านได้มาแลกเปลี่ยนข้อมูลเบื้องลึก สำรวจความเป็นไปได้ทางธุรกิจและทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาทั้งธุรกิจของไทยและภาคธุรกิจของเราต่อไป" นายทาการ์กล่าว "เรามาประเทศไทยเพราะต้องการสื่อสารและเน้นย้ำให้ทราบโดยทั่วกันว่า ปัจจุบัน ตุรกีคือประเทศทางเลือกที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่มองหาสินค้าที่ต้องการ ตุรกีส่งของได้เร็วกว่า มีสินค้ามีคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้"

งาน ' IKMIB Trade Delegation to Bangkok - B2B Meetings' ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยมีบริษัทชั้นนำของไทยไม่ต่ำกว่า 50 แห่งแสดงความประสงค์จะเข้าร่วมงานแล้ว บริษัทตุรกีแต่ละแห่งจะรับนัดหมายพูดคุยกับตัวแทนของบริษัทค้าปลีก ผู้จัดจำหน่ายหรือผู้ผลิตชั้นนำของไทยราว 5-7 แห่งภายในงานเพื่อสานต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจต่อไป

ผลิตภัณฑ์จากประเทศตุรกีถือเป็นสินค้าคุณภาพสูง ผลิตตามมาตรฐานสากล แต่ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าจากยุโรป ยิ่งไปกว่านั้น ตุรกีมีความได้เปรียบด้านทำเลและมีความน่าเชื่อถือ การส่งมอบสินค้าเป็นไปตามกำหนดแม้แต่ในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดรุนแรง ในปี 2564 มูลค่าสินค้าส่งออกของตุรกีสูงถึง 2.88 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงยอดส่งออกสินค้ามาไทยจำนวน 236.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐด้วย โดยเป็นการส่งออกสารเคมีอนินทรีย์ โลหะมีค่าและไอโซโทปจำนวน 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสารเคมีอินทรีย์จำนวน 1.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หากแยกย่อยตามประเภทสินค้าจะพบว่าตุรกีส่งออกเคมีภัณฑ์ (เครื่องสำอาง น้ำมันแร่ พลาสติก กาว สีและยา) รวมมูลค่า 68.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐมายังประเทศไทยในปี 2564 นั้น ยอดขายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยอดขายพลาสติก 4.2 ล้านดอลลาร์ และยอดขายผลิตภัณฑ์ยา 5.8 ล้านดอลลาร์

"เรายังมีโอกาสอีกมากที่จะเพิ่มยอดตัวเลขส่งออกจากตุรกีและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในหลาย ๆ ด้าน ยกตัวอย่างเช่น เรามีเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามที่จะพร้อมรองรับอุตสาหกรรมความงามของไทย รวมทั้งยังมียาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมเสริมแกร่งให้ไทยในฐานะศูนย์กลางทางการแพทย์หรือ Medical Hub อีกด้วย" ตัวแทนของ IKMIB กล่าว

สำหรับการจัดงานจับคู่ทางธุรกิจในครั้งนี้ IKMIB ได้ทำงานร่วมกับแคนวาสโค (Canvassco) ซึ่งเป็นเอเยนซีจัดทำการตลาดและสร้างอุปสงค์ระดับมืออาชีพ (Demand Generation) พร้อมต่อยอดธุรกิจด้วยการประสานงานผ่านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมการค้าอีกหลายแห่ง จึงมั่นใจได้ว่างาน  'คณะผู้แทนการค้า IKMIB สู่แดนไทย' จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

นางสาวพรประพันธ์ ศรีโยธา ผู้บริหารของแคนวาสโค (Canvassco) ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานอย่างเป็นทางการของงาน ' IKMIB Trade Delegation to Bangkok - B2B Meetings' กล่าวย้ำว่า บริษัทไทยไม่ควรพลาดโอกาสที่จะพบปะบริษัทตุรกีในครั้งนี้เพราะบริษัทเวียดนามกำลังเตรียมคว้าโอกาสสำคัญทางธุรกิจผ่านงานจับคู่ทางธุรกิจลักษณะเดียวกันที่จะจัดขึ้นในเดือนเดียวกันนี้

"ประเทศไทยมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่เข้มแข็งแล้ว รวมถึงยังมีธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็ว หากเลือกจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้จัดหาหรือจัดส่งสินค้าที่ใช่ ประเทศไทยจะตอบสนองต่อกระแสความต้องการสินค้าคุณภาพสูงขึ้นของผู้บริโภคได้ดีและยังรักษาตำแหน่งศูนย์กลางทางการค้าของตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) ไว้ได้อีกด้วย" นางสาวพรประพันธ์กล่าว "งาน IKMIB - Trade Delegation to Bangkok ไม่เพียงเป็น 1 ในกิจกรรมที่จะช่วยสร้างยอดอุปสงค์ หากแต่ยังจะเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือทางธุรกิจสำหรับหลายบริษัทด้วยเช่นกัน"



ที่มา:  Canvassco (Thailand)
สมาคมผู้ส่งออกสารเคมีและเคมีภัณฑ์ตุรกีรุกสร้างพันธมิตรกับบริษัทไทย ขนทัพนักธุรกิจเจรจา จับคู่ทางธุรกิจ 16 ธ.ค.นี้ สมาคมผู้ส่งออกสารเคมีและเคมีภัณฑ์ตุรกีรุกสร้างพันธมิตรกับบริษัทไทย ขนทัพนักธุรกิจเจรจา จับคู่ทางธุรกิจ 16 ธ.ค.นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ