DTCENT มั่นใจเข้าเทรดวันแรก สร้างความประทับใจ ชูจุดเด่นอยู่ในอุตฯเมกะเทรนด์ "ขนส่ง-โลจิสติกส์-ไอซีที"

พุธ ๑๔ ธันวาคม ๒๐๒๒ ๑๒:๒๙
DTCENT มั่นใจเข้าเทรดวันแรก สร้างความประทับใจ ชูจุดเด่นอยู่ในอุตฯเมกะเทรนด์ "ขนส่ง-โลจิสติกส์-ไอซีที" อนาคตโตแรง ผนึก 2 พันธมิตรรายใหญ่ "ยาซากิ-บุญรอด ซัพพลายเชน" บุกอาเซียน
DTCENT มั่นใจเข้าเทรดวันแรก สร้างความประทับใจ ชูจุดเด่นอยู่ในอุตฯเมกะเทรนด์ ขนส่ง-โลจิสติกส์-ไอซีที

บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) ผู้ให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ของไทย เตรียมลงสนามเทรดใน SET วันที่ 15 ธันวาคมนี้ มั่นใจไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง สร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจ เพราะอยู่ในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ของโลก "ขนส่ง-โลจิสติกส์-ไอซีที" มีแนวโน้มเติบโตสูง ฟากซีอีโอ "ทศพล คุณะเพิ่มศิริ" ระบุหลังระดมทุนเพิ่มศักยภาพฐานทุน สร้างโอกาสใหม่ในการลงทุน พร้อมจับมือ 2 พันธมิตรรายใหญ่ "ยาซากิ-บุญรอด ซัพพลายเชน" ต่อยอดธุรกิจ IoT Solution บุกตลาดต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน หนุนอนาคตเติบโตก้าวกระโดด

นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 หุ้น DTCENT เตรียมเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มั่นใจว่า จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ในฐานะผู้นำระบบติดตามยานพาหนะ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2565) รวมถึงผู้บริหารและทีมงานมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากกว่า 25 ปี มีพันธมิตรรายใหญ่ทั้งบริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) และบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ซึ่งถือเป็นพันธมิตรหลักที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนในการแข่งขัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น

รวมถึงยังมีทีมงานในการพัฒนาระบบ IoT Solution เพื่อรองรับด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานจากนโยบายของภาครัฐ จะช่วยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสำเร็จ ทำให้มีศักยภาพในการขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น

"จากแผนระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพฐานทุนรองรับแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ IoT Solution เพิ่มเติมกับภาครัฐและเอกชนในอนาคต รวมถึงการลงทุนสร้างศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ (Vehicle Monitoring and Support Center) และลงทุนในธุรกิจที่คล้ายคลึงและมีความเกี่ยวเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และโอกาสในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และไปยังต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนได้" นายทศพล กล่าว

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจว่า หุ้น DTCENT จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น เห็นได้จากในช่วงระหว่างเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอ มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อหุ้นเป็นจำนวนมากในระยะเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจ เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ DTCENT กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 305 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 2.86 บาท เตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายคือ "DTCENT" ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า หุ้น DTCENT อยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมขนส่ง โลจิสติกส์ และไอซีที ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง และปัจจุบันความต้องการในธุรกิจ GPS Tracking เพิ่มขึ้น และจะสนับสนุนให้เติบโตควบคู่ไปกับการเติบโตของกลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TTB Analytics ประเมินว่า ภาคธุรกิจขนส่งไทยในปี 2565 จะเติบโตประมาณ 10.5% จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย

ส่วนงาน IoT Solution ซึ่งจะมาช่วยเสริมรายได้ให้กับบริษัทในช่วงปี 2565-66 มีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน อ้างอิงจากงานวิจัยของบริษัท Frost & Sullivan และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ประเมินว่า มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมไอโอทีในประเทศไทย จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดคิดเป็นอัตราเติบโต CAGR (ปี 2561-76) เฉลี่ย 30.18% ต่อปี จากความพร้อมของ Digital Infrastructure โดยเฉพาะโครงข่าย 5G ที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และการสนับสนุนของภาครัฐตามนโยบาย Thailand 4.0

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง งบประมาณในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการเข้าไปประมูลงานด้าน IoT Solution เพิ่มมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ จะทำให้ DTCENT มีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต

ที่มา: ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย