นโยบายดอกเบี้ยเฟดกดดันการลงทุนปีหน้า "หุ้นจีน-ฮ่องกง-เวียดนาม" เด่นครึ่งปีแรก "หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำ-บิทคอยน์" ครึ่งปีหลัง

ศุกร์ ๑๖ ธันวาคม ๒๐๒๒ ๑๓:๐๖
นักลงทุนรุ่นใหม่ มองภาพการลงทุนปีหน้า หลังประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าสุด มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.5% แต่ยังทิ้งประเด็นเรื่องนโยบายการเงินที่ต้องเคร่งครัดต่อไปเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ คาดกดดันตลาดทุนอย่างน้อยหนึ่งไตรมาส แนะนักลงทุนระมัดระวัง เน้นคัดเลือกสินทรัพย์ที่สามารถเอาชนะภาพรวมตลาดได้ ชูตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง-เวียดนาม มีโอกาสสร้างพอร์ตโตในครึ่งปีแรก ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ทองคำ-บิทคอยน์ แนวโน้มขาขึ้นในครึ่งปีหลัง
นโยบายดอกเบี้ยเฟดกดดันการลงทุนปีหน้า หุ้นจีน-ฮ่องกง-เวียดนาม เด่นครึ่งปีแรก หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำ-บิทคอยน์ ครึ่งปีหลัง

นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ FED ครั้งสุดท้ายของปีนี้ มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% น้อยกว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยใน 4 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่ง FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตรา 0.75% ติดต่อกัน มาโดยตลอด คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และทิศทางเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง

อย่างไรก็ตาม ประธาน FED ได้ออกมาแถลงในภายหลังว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจาก FED ต้องการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดจนกว่าจะเห็นเงินเฟ้อลงมาเหลือ 2% แม้ว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัว แต่เฟดต้องการจะเห็นหลักฐานให้ชัดเจนว่าเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.75% ภายในสิ้นปี 2566 และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2567

"ข้อมูล Dot Plot ครั้งล่าสุด ระบุว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ภายในปี 2566 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่ารายงาน Dot Plot ในการประชุมเดือนกันยายน ที่ระบุว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 4.6% ภายในปี 2566 จึงทำให้ตลาดยังคงอยู่ในสภาวะคลุมเครือเรื่องนโยบายดอกเบี้ยต่อไป ส่งผลทำให้ทิศทางตลาดมีความผันผวนและเคลื่อนไหวไซด์เวย์ต่อไป"

สำหรับทิศทางการคัดเลือกสินทรัพย์การลงทุนในปีหน้า ภายใต้นโยบายการเงินของ FED ที่ยังไม่เอื้อต่อการปรับตัวเป็นขาขึ้นของตลาด ในภาพรวมการลงทุนจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะตลาดยังมีความเสี่ยงเรื่องของเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession รออยู่ข้างหน้า โดยมุมมองการลงทุนในปี 2566 สินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตได้ดีและน่าสนใจในแง่ของแวลูเอชั่น คือ ตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง และเวียดนาม เพราะตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง ปรับตัวลงค่อนข้างมากตั้งแต่ต้นปีนี้จากปัจจัยหลักที่สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดยังคงน่ากังวลจนรัฐบาลต้องสั่งปิดเมืองหลายรอบ แต่เริ่มเห็นสัญญาณตั้งแต่ช่วงปลายปีที่รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตราการมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นจีนทุกดัชนีปรับตัวขึ้นมาได้แล้วกว่า 10% และหากมองแวลูเอชั่นของตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง ถือว่าน่าสนใจ เพราะค่าพีอีต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตค่อนข้างมาก

อีกทั้งมีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจจีนปีหน้าจะกลับมาฟื้นตัวได้ดี และโดดเด่นกว่าประเทศอื่นที่อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนั้น จีนยังมีเงินเฟ้อที่ต่ำมาก หากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดผ่อนคลายลงจะทำให้ตลาดหุ้นกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง

ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นอีกตลาดที่ราคาปรับตัวลงแรงตั้งแต่ต้นปี โดยลดลงมาแล้วกว่า 30% กลายเป็นตลาดหุ้นที่สร้างผลตอบแทนแย่ที่สุดของปีนี้ อย่างไรก็ตามในแง่ของแวลูเอชั่นถือว่าน่าสนใจเพราะซื้อขายที่ค่าพีอีต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ประกอบกับปัจจัยที่ทำให้ตลาดลงแรงมาจากข่าวเชิงลบในตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็นกระแสที่มีสถาบันการเงินล้ม หรือ การเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่างไม่ถูกต้อง แต่ในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจยังเติบโตได้อย่างดี การเข้าลงทุนในช่วงเวลานี้จึงมีโอกาสเข้าซื้อด้วยราคาหุ้นที่ถูกกว่าปกติ ซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นปรากฎการณ์นี้บ่อยนัก

"ในเชิงกราฟเทคนิคทั้งสองตลาดถือว่ามีการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงแล้ว จึงเหมาะสมที่จะถือลงทุนในระยะกลางถึงยาวตลอดทั้งปี 2566 หรือ นานกว่านั้นได้ เพราะต่างมีศักยภาพเชิงพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้งคู่ ที่สำคัญคือมีค่าความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นอื่นทั่วโลกในระดับต่ำ จึงถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเอาชนะภาพรวมตลาดหุ้นโลกได้ในปีหน้า"

สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีแรกอาจจะยังมีความเสี่ยงเรื่องของเศรษฐกิจถดถอยมากดดัน เช่นเดียวกับประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ Emerging Market ในช่วงครึ่งปีแรก จึงยังมีความเสี่ยงในการลงทุน แต่ถ้าสถานการณ์มีความชัดเจนขึ้นในครึ่งปีหลัง มองว่าเป็นโอกาสเข้าลงทุนได้ต่อจากหุ้นจีนและเวียดนาม

นายณพวีร์ กล่าวว่า อีกหนึ่งสินทรัพย์ที่น่าสนใจในปีหน้า คือ "ทองคำ" จากการที่ค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางที่อ่อนค่าชัดเจนแล้ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อทองคำ นอกจากนี้ทองคำยังไม่มีความเสี่ยงเรื่องของเศรษฐกิจถดถอยและถ้าเงินเฟ้อยังคงตัวในระดับ 5% ขึ้นไป เชื่อว่าจะมีความต้องการในทองคำเข้ามาเพื่อที่จะเอาชนะเงินเฟ้อระดับปานกลาง โดยคาดว่าเมื่อทิศทางดอกเบี้ยของ FED ชัดเจนมากขึ้นในไตรมาสแรกปีหน้า ทองคำจะเริ่มให้ผลตอบแทนที่ดีตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป

ขณะที่ บิทคอยน์ เป็นอีกสินทรัพย์ที่น่าสนใจในปีหน้า เนื่องจากปี 2567 จะเกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving ซึ่งเกิดขึ้นทุกสี่ปีและราคาบิทคอยน์จะเป็นขาขึ้นทุกครั้ง ซึ่งน่าจะเกิดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 จึงเป็นไปได้ว่าราคาน่าจะตอบสนองเชิงบวกล่วงหน้าตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2566 เป็นต้นไป แต่ต้องจับตาด้วยว่าจะมี Use Case ของการนำบิทคอยน์ไปใช้งานจริงที่จะเป็นแรงผลักดันในฝั่งดีมานด์หรือไม่

"บทสรุปภาพรวมการลงทุนในปีหน้า ช่วงครึ่งปีแรกตลาดหุ้นจีนและเวียดนามน่าสนใจ และครึ่งปีหลังจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเอเชียอื่น ๆ ส่วน ทองคำ น่าจะเริ่มปรับตัวเป็นขาขึ้นในไตรมาสสองและบิทคอยน์น่าจะเริ่มเป็นขาขึ้นในครึ่งปีหลัง ถ้าเราสามารถจัดพอร์ตลงทุนให้สับเปลี่ยนหมุนเวียนสินทรัพย์ได้ก็น่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ตลอดทั้งปี"

ที่มา: เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version