นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ส้มเป็นผลไม้ยอดนิยมในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะส้มที่ปลูกในประเทศไทยผ่านโครงการ "ส้มปลอดภัย คนไทยยิ้มได้" ที่แม็คโคร ได้ร่วมทำงานกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนสถาบันการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พัฒนาเกษตรกรให้ยกระดับมาตรฐานการเพาะปลูกเพื่อผลผลิตที่ปลอดภัย ลดการใช้สารเคมี โดยเฉพาะในแหล่งเพาะปลูกสำคัญ อาทิ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ จ.แพร่ มาตลอด 9 ปี ส่งผลให้ผลผลิตส้มที่ได้ มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
"ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา แม็คโคร และภาคีเครือข่ายในโครงการส้มปลอดภัย คนไทยยิ้มได้ ทำงานใกล้ชิดกับเกษตรกร โดยเราเน้นกระบวนการตรวจเข้มสารเคมีตกค้างตลอดห่วงโซ่ ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่น เกษตรกรขายผลผลิตได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีรายได้ที่มั่นคง จนกระทั่งมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น มีพื้นที่ปลูกส้มปลอดภัยครอบคลุมมากกว่า 20,000 ไร่"
ชาวสวนส้มปลอดภัยที่ส่งผลผลิตจำหน่ายกับแม็คโคร จะเก็บเกี่ยวผลผลิตในระยะที่ปลอดภัย ภายหลังการใช้สารกำจัดแมลง รวมถึงกระตุ้นให้เกษตรกรใช้ย่าฆ่าแมลงลดน้อยลง เน้นใช้สารชีวภัณฑ์จากสะเดาทดแทน ซึ่งผลผลิตต้องผ่านการตรวจสอบสารเคมีตกค้าง ตั้งแต่ต้นฤดูกาล จนถึงปลายฤดู ด้วยห้องปฎิบัติการรับรองมาตรฐานระดับสากล ISO/IEC 17025 โดยแม็คโคร จะเพิ่มความถี่ในการสุ่มตรวจสินค้าทุกล็อตก่อนออกจากสวน และที่ศูนย์กระจายสินค้า ที่สำคัญข้อมูลความปลอดภัยต่างๆ เหล่านี้ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด makro i-Trace ที่ติดอยู่ในบรรจุภัณฑ์ หรือป้ายแสดงคิวอาร์โค้ด ณ จุดจำหน่าย สำหรับ สายพันธุ์ส้มในโครงการดังกล่าว เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกในประเทศไทย ประกอบด้วย ส้มสายน้ำผึ้ง นัมเบอร์วัน เช้ง เขียวหวาน โอเชี่ยน และคัมควอท ซึ่งในปี 2022 นี้ แม็คโคร รับซื้อส้มปลอดภัยจากชาวสวนมากกว่า 4,500 ตัน
"เรายังพบอีกด้วยว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนี้ สามารถสานต่ออาชีพการทำไร่ส้มจากรุ่นสู่รุ่นได้ นับเป็นการเสริมสร้างศักยภาพให้เกษตรกรไทยมีความเข้มแข็ง โดยมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน" นางศิริพร กล่าว
ที่มา: นิโอ ทาร์เก็ต