"บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถเข้าลงทุนในหนี้ NPLs ได้ตามเป้าหมายหรืออาจทำได้มากกว่าเพราะถึงตอนนี้ได้เข้าลงทุนในหนี้เพิ่มเข้ามาแล้ว 90% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ และยังมีหนี้ที่ขณะนี้บริษัทได้ยื่นประมูลหนี้ NPLs เข้าไปประมาณ 300- 500 ล้านบาท ที่รอผลการประมูล ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่การเข้าลงทุนหนี้ ของบริษัทอาจทำได้มากกว่าเป้าหมาย" นายทวีกล่าว
นายทวี กล่าวว่า หลังจากบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน mai และมีเงินทุนที่เพิ่มเข้ามาทำให้ความสามารถในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น บริษัทเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทเพิ่ม มากขึ้น ซึ่งนับจากเข้า mai จนถึงปัจจุบันพอร์ตหนี้ NPLs ของบริษัทเติบโตขึ้นจาก 565 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 ขึ้นมาอยู่ที่ 1,126 ล้านบาท และยังเชื่อมั่นว่าจะเติบโตได้อีกตามปริมาณหนี้ NPLsที่สถาบันการเงินนำออกมาประมูล อีกทั้งมองว่าปีหน้าก็จะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะหมดอายุลงและเชื่อมั่นว่าบริษัทจะมีการเติบโตปีละประมาณ 50% ได้อย่างต่อเนื่อง
"บริษัทยังคงรักษาจุดเด่นที่แข็งแกร่ง คือความสามารถในการทำกำไร ที่อยู่ในระดับสูง โดยอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ยังคงอยู่ในระดับ 85% และบริษัทยังคงเน้นลงทุนในหนี้ NPLs ที่เป็นธุรกิจเป็นหลักในสัดส่วนกว่า 88% ของเงินลงทุนในหนี้ NPLs ทั้งหมดของบริษัทเป็นลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจ เพราะมีความชำนาญและเชี่ยวชาญมากว่า 20 ปี และในการเลือกเข้าประมูลหนี้ก็จะดูในเรื่องของราคาและผลตอบแทน (IRR) ที่จะเกิดขึ้นจะต้องอยู่ในระดับที่ดี หรือเฉลี่ยต้องมากกว่า 15-20%" นายทวีกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 9 เดือนที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 70.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.69 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักมาจากมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
"ผลการดำเนินงานของบริษัทถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายและภายหลังประกาศงบออกมาธุรกิจของบริษัทยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนมาขอเข้ามาพบและฟังข้อมูลและทิศทางการทำธุรกิจของบริษัทในอนาคตต่อเนื่อง".
ที่มา: บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล