นายบุญชอบ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่ผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวและบริการประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 คลี่คลายลง ทำให้ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวตามการกลับมาของนักท่องเที่ยว ประกอบกับภาคธุรกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว การจ้างงานเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจึงต้องการแรงงานสูงนั้น ในวันนี้กระทรวงแรงงานจึงได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการทั้งสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมโรงแรมไทย เพื่อบูรณาการความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานและยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ
นายบุญชอบ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ปัจจุบันกรมการจัดหางานไทยได้พัฒนาแพลตฟอร์ม "ไทยมีงานทำ" ซึ่งรวบรวมตำแหน่งงานว่างจากทั่วประเทศไว้มากที่สุด คนหางานสามารถค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตนเอง โดย Matching ตำแหน่งงานตามพื้นที่ และภูมิลำเนา รวมถึงจับคู่ตำแหน่งงานจากความรู้ ความสามารถ และทักษะที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการประกาศรับสมัครงานสำหรับนายจ้าง สถานประกอบการ โดยการลงทะเบียนนายจ้าง เพื่อประกาศตำแหน่งงาน และคัดลอกรายชื่อผู้หางาน ซึ่งทั้งหมดนี้ให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในส่วนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานยังดำเนินการฝึกทักษะฝืมือเพื่อการประกอบอาชีพรองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ อาทิ หลักสูตรผู้ประกอบการอาหารไทย ผู้ประกอบอาหารฮาลาล นวดไทยและสปา พนักงานผสมเครื่องดื่ม บาเทนเดอร์ พนักงานดูแลเรือ ช่างซ่อมบำรุง คนขับรถ เน้นฝึกสาขาที่เกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวเป็นหลัก อาทิ ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง กระบี่ เชียงใหม่ เชียงราย และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น
ด้าน คุณจารุวรรณ งามพิสุทธิ์ไพศาล ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายทรัพยากรบุคคลสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวและบริการกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในเชิงปริมาณโดยเฉพาะจังหวัดเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ต ซึ่งจากการหารือในวันนี้ได้มีแนวทางร่วมกันในการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มไทยมีงานทำให้สามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และสถานประกอบการอื่นๆ ส่วนในเชิงคุณภาพโดยเฉพาะทักษะฝีมือของแรงงานนั้น จะได้ร่วมมือกันในการ Up Skill ด้านดิจิทัล ภาษา และ Soft Skill ที่มีความจำเป็น ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการทำงานมีการปรับเปลี่ยนไปแรงงานหนึ่งคนสามารถทำได้หลายอาชีพและทำงานได้หลากหลายมากขึ้น
ขณะที่ คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมและภาคบริการได้ให้ความสำคัญกับการจ้างแรงงานที่เป็นคนไทยอยู่แล้วและปัจจุบันก็ยังมีความต้องการจ้างแรงงานไทยอยู่ มีเพียงบางสาขาอาชีพเท่านั้นที่ต้องพึ่งพิงแรงงานต่างด้าว การได้มาหารือกับกระทรวงแรงงานในวันนี้ได้มีความเห็นที่จะร่วมกันพัฒนาในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลนักศึกษาจบใหม่กับฐานข้อมูลการมีงานทำเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ ส่วนการพัฒนายกระดับทักษะต่างๆ ของแรงงานภาคบริการในประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหลายอาชีพในภาคธุรกิจโรงแรมจำเป็นต้องเรียนรู้และฝึกฝนทักษะทั้งในเรื่องภาษา ดิจิทัลเทคโนโลยี การตลาด การบริหารรายได้ จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่การหารือในครั้งนี้จะนำไปสู่การทำงานร่วมกัน ซึ่งสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมโรงแรมไทยยินดีที่จะผนึกกำลังโดยใช้กลไกของรัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกันต่อไป
ที่มา: กระทรวงแรงงาน