เปิดโผ 4 สุดยอดองค์กรที่น่าทำงานที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2565

พฤหัส ๒๒ ธันวาคม ๒๐๒๒ ๑๐:๐๓
โนโว นอร์ดิสค์, เอไอเอ, จาร์ดีน ชินด์เล่อร์ (ไทย) และแหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล (LCIT) ได้รับการยกย่องเป็นองค์กรที่น่าทำงานที่สุด 4 อันดับแรกในประเทศไทยประจำปี 2565 โดยโครงการรับรองประจำปีอันทรงเกียรติ "Best Places to Work" (สถานที่ทำงานที่ดีที่สุด)

โนโว นอร์ดิสค์ (ประเทศไทย) ได้รับตำแหน่งอันดับสูงสุด ตามมาด้วยเอไอเอ (ประเทศไทย) ซึ่งอยู่ในเครือบริษัทประกันและการเงินข้ามชาติ ส่วนอันดับสามได้แก่ จาร์ดีน ชินด์เล่อร์ (ไทย) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจาร์ดีน ชินด์เล่อร์ กรุ๊ป (Jardine Schindler Group) กิจการร่วมค้าระหว่างจาร์ดีน แมธทีสัน (Jardine Matheson) ในฮ่องกง กับชินด์เล่อร์ กรุ๊ป (Schindler Group) ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีประสบการณ์รวมกันเป็นระยะเวลากว่า 300 ปีในด้านการบริหารจัดการธุรกิจ ความเชี่ยวชาญระดับภูมิภาค และความเป็นเลิศทางวิศวกรรม ขณะที่บริษัทแหลมฉบัง อินเตอร์ชั่นแนล เทอร์มินอล อยู่ในอันดับที่สี่

ในแถลงการณ์จากเอนริโก คาญาล บรูแลนด์ (Enrico Ca?al Bruland) รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของโนโว นอร์ดิสค์ (ประเทศไทย) ระบุว่า "เราให้ความสำคัญอย่างสูงกับการสร้างและรักษาบรรยากาศที่ทุกคนรู้สึกว่าได้รับการรับฟัง ยอมรับ และเล็งเห็นคุณค่า การได้รับเลือกเป็นองค์กรที่น่าทำงานที่สุดสำหรับผู้หญิงเพิ่มเติมด้วยในปีนี้ถือเป็นความสำเร็จใหญ่หลวง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเราในด้านความหลากหลายและการรองรับทุกกลุ่มคน"

แม้ว่าจะมีความท้าทายในทั่วโลกเกี่ยวกับอัตราการออกจากงานของพนักงานและระดับการมีส่วนร่วมที่ลดลง ระดับการมีส่วนร่วมโดยเฉลี่ยของบริษัทที่มีผลการดำเนินงานระดับแนวหน้าในไทยอยู่ที่ 85% ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ กลุ่มนายจ้างชั้นนำในไทยกลุ่มนี้ประสบความสำเร็จในการดูแลพนักงานของตนให้มีความสุข มีสุขภาพดี และพึงพอใจในการมาทำงาน

Best Places to Work เป็นโครงการรับรองระดับนานาชาติที่ถือเป็น 'มาตรฐานระดับแพลทินัม' ในการค้นหาและยกย่องสถานที่ทำงานชั้นนำทั่วโลก โดยมอบโอกาสให้นายจ้างได้ทราบมากขึ้นเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของพนักงาน พร้อมทั้งเชิดชูนายจ้างที่สามารถมอบประสบการณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยมด้วยมาตรฐานสูงสุดในแง่ของสภาพการทำงาน

โครงการดังกล่าวร่วมมือกับหลากหลายองค์กรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทยทุก ๆ ปี เพื่อช่วยให้องค์กรเหล่านั้นวัดผล ประเมินเปรียบเทียบมาตรฐาน ปรับปรุงแนวปฏิบัติด้าน HR ตลอดจนใช้ความเข้าใจเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในการเพิ่มคุณค่า ยกระดับความคล่องตัว และเพิ่มประสิทธิผลขององค์กร

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ที่ www.bestplacestoworkfor.org เข้าร่วมชุมชนของเราได้ทางลิงด์อิน, ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ