นายเอกชัย ลิ้มศิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย ("SSTRT") เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดให้กลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมของกองทรัสต์ SSTRT จองซื้อวันที่ 21-22 ธันวาคม 2565 ในอัตราส่วนการจัดสรร 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.2317 หน่วยทรัสต์ใหม่ และประชาชนทั่วไปวันที่ 23 และ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 5.80 บาทต่อหน่วยทรัสต์ จำนวน 36.21 ล้านหน่วย ปรากฏว่า ได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ถือหน่วยเดิมที่ใช้สิทธิในการจองซื้อจนเต็มสิทธิ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนทั่วไปที่จองซื้อหน่วยลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทรัสต์ SSTRT
ทั้งนี้สาเหตุหลักที่กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจเข้าลงทุนในกองทรัสต์ฯ เนื่องจากเชื่อมั่นในแนวโน้มอุตสาหกรรมการให้บริการคลังเอกสาร ที่ยังคงมีความสำคัญในการจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการดำเนินธุรกิจในทุกๆ ภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสืบค้นและอ้างอิงทางเอกสารหลักฐานเชิงข้อมูลทางธุรกิจ รวมถึงการตรวจสอบเอกสารของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้แม้ว่าในปัจจุบันบริษัทหลายแห่งเลือกเก็บเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในประเทศไทยยังคงมีข้อบังคับทางกฎหมาย กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องเก็บข้อมูลเป็นเอกสารไว้ เพื่อตรวจสอบหรืออ้างอิงตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยเฉพาะสถาบันทางการเงินจะกำหนดให้ต้องมีการจัดเก็บเอกสารในรูปแบบต้นฉบับกระดาษด้วย อาทิ เอกสารทางบัญชี เอกสารทางการเงิน เอกสารนิติกรรมต่างๆ และเอกสารอื่นๆ ที่มีความสำคัญทางกฎหมายและภาษีอากร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบ กำกับดูแล และสืบค้นตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้นจากดีมานด์เชิงบวกดังกล่าว จึงเป็นเครื่องตอกย้ำให้นักลงทุนเห็นว่า การใช้บริการจัดเก็บเอกสารยังคงอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะสอดรับกับแนวโน้มอัตราการเติบโตของกองทรัสต์ SSTRT ในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
"กองทรัสต์ SSTRT ลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมของ บมจ.ทรัพย์ศรีไทย ประกอบด้วย ที่ดิน 4 ไร่ 1 งาน 68.9 ตารางวา และ อาคารคลังเอกสาร จำนวน 4 อาคาร ซึ่งเป็นอาคารเก็บรักษาเอกสารสำคัญ (Document Storage Services Center) ให้กับบริษัท ห้างร้าน และหน่วยราชการต่างๆ มีมูลค่ารวมประมาณ 190 ล้านบาท
ประกอบด้วย 1. อาคารคลังเอกสารหมายเลข 36 พื้นที่อาคารประมาณ 1,750 ตารางเมตร , 2. อาคารคลังเอกสารหมายเลข 37 พื้นที่อาคารประมาณ 1,750 ตารางเมตร , 3. อาคารคลังเอกสารหมายเลข 38 พื้นที่อาคารประมาณ 1,750 ตารางเมตร และ 4. อาคารคลังเอกสารหมายเลข 39 พื้นที่อาคารประมาณ 1,750 ตารางเมตร"
ภายหลังจากการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ SSTRT มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน คลังเอกสาร งานระบบสาธารณูปโภคและอุปกรณ์ เพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น เป็น 18 อาคาร จากทรัพย์สิน ณ ปัจจุบัน จำนวน 14 อาคาร ซึ่งจะส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ฯ แตะที่ระดับ 1,700 ล้านบาท และถือเป็นกองทรัสต์ฯ เพียงรายเดียวในประเทศไทยที่เป็นกองทรัสต์ประเภทคลังเอกสาร และเป็นกองทรัสต์ประเภท Freehold 100%
อย่างไรก็ตาม จากการเสนอขายหน่วยเพิ่มทุนในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการเพิ่มขีดความสามารถการเติบโตของผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ SSTRT ที่เป็นทรัพย์สินประเภท Freehold 100% ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วย จากการเป็นเจ้าของที่ดินและคลังเก็บเอกสารอย่างไม่มีกำหนด
ภายหลังการลงทุน ในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถจ่ายประโยชน์ตอบแทน ประมาณ 0.41 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 คิดเป็นอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทน (Dividend Yield) 7% ซึ่งถือเป็นระดับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับแนวโน้มการเติบโตของคลังเอกสารที่เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมในระยะยาว
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์