ล่าสุด ออโต้แบคส์ ฉลองเปิดสาขาที่ 45 ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันซัสโก้ พัทยา นาเกลือ พร้อมเสนอโปรโมชั่นพิเศษสุด! เปลี่ยนยาง 2 เส้น แถม 2 เส้น (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ) น้ำมันเครื่อง โช้คอัพ ผ้าเบรก ลดสูงสุด 50% เฉพาะวันที่ 23 - 31 ธันวาคมนี้ และสาขาโลตัสนิคมพัฒนา จ.ระยอง เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อรอบรับช่วงเทศกาลปีใหม่ ก่อนฉลองเปิดสาขาอย่างเป็นทางการอีกครั้งต้นปี 2666 นี้ พร้อมให้คำปรึกษาและบริการลูกค้า ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและช่างผู้เชี่ยวชาญผ่านการอบรมตามแบบฉบับญี่ปุ่น รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/autobacsthai หรือ Line @autobacsthailand
นายรังสรรค์ พวงปราง ประธานกรรมการ บริษัท สยามออโต้แบคส์ จำกัด และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ออโต้แบคส์ จะเน้นเป็นศูนย์บริการแบบ consultant หรือเน้นให้คำปรึกษาลูกค้ามากกว่าการขาย รวมถึงการให้รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ ประเมินสภาพรถยนต์ของลูกค้า อย่างเช่น ชิ้นส่วนตรงนี้จะมีระยะการใช้งานเท่าไร เหลือระยะเวลาเท่าไร ควรจะเปลี่ยน วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา เพื่อหาแนวทางการแก้ไข และให้การตัดสินใจทุกอย่างเป็นของลูกค้าว่า จะเนินการเปลี่ยนหรือซ่อม เนื่องจากลูกค้าบางรายอาจจะได้รับผลกระทบในเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งแนวทางในการดำเนินธุรกิจนี้ทำให้ได้ ออโต้แบคส์ ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากผู้ใช้บริการ และในอนาคตทางบริษัทฯ จะมีการเปิดพรีออเดอร์อะไหล่ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงอุปกรณ์แต่งรถสปอร์ต จากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ทั้งนี้ ออโต้แบคส์ มีจุดแข็งในเรื่องของ Network มีฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอยู่แล้ว และมีการรักษามาตรฐานที่ดีให้กับลูกค้ามาตลอด อีกทั้งยังมีทีมทางญี่ปุ่นจะเข้ามาตรวจสอบเพื่อประเมินทุกปี มีการเทรนด์พนักงานอย่างเป็นระบบ เพื่อคงมาตรฐานด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องมาตรฐานในด้านการให้บริการของพนักงานด้านงานช่างอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันออโต้แบคส์ มีสาขาให้บริการแล้ว 46 สาขา ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายในการขยายสาขาในปี 2565 ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายสาขาในปี 2566 ไว้ที่ประมาณ 50 สาขา และคาดว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า จะต้องเปิดให้บริการให้ได้ มากกว่า 200 สาขา
"การดำเนินธุรกิจ ทางออโต้แบคส์ มีการวางเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจแบบเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์มากขึ้น และในขณะเดียวกันจะกระตุ้นให้ธุรกิจเติบโตตามเป้าหลักที่วางแผนไว้ว่าภายใน 3-4 ปีนี้ บริษัทฯ จะสามารถขึ้นเป็นธุรกิจด้านยานยนต์อันดับ 1-2 ได้ สุดท้ายทางออโต้แบคส์ เชื่อมั่นภาพรวมของตลาดในระยะยาว และศักยภาพในการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้ให้มากที่สุด" นายรังสรรค์ กล่าว
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น