โดยสาระสำคัญของการเพิ่มทุนจดทะเบียนดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ มุ่งสู่การลงทุนในธุรกิจแนวใหม่ ได้แก่ ธุรกิจหลักทรัพย์แบบครบวงจรอย่าง 'บริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด' ที่พร้อมเปิดให้นักลงทุนร่วมเทรดอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 3 มกราคม 2566 นี้ และธุรกิจเทคโนโลยีด้านการเงินที่บริษัทฯ เข้าลงทุนร่วมกับบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เพื่อพัฒนา Fintech แนวใหม่ ในรูปแบบของธุรกิจ P2P Lending ในชื่อของ 'Peer for All'
ด้าน นายกฤษฎา พฤติภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "การเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ และการปรับโครงสร้างธุรกิจในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับเงินกองทุนของบริษัทฯ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น และยังเป็นการเพิ่มธุรกรรมการเงินของ บล.ลิเบอเรเตอร์ ซึ่งจะทำการเปิดตัวในไตรมาสถัด ๆ ไป นอกจากนี้ เรายังมองว่าการมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้น จะเป็นไปเพื่อให้เกิดความหลากหลายและสร้างความมั่นคงของรายได้และกำไรให้แก่บริษัทฯ และเพื่อรองรับการปรับตัวให้เท่าทันกับโลกเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่ามีความสมเหตุสมผลและจะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักลงทุนแน่นอน"
หลังจากที่ บล.ลิเบอเรเตอร์ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากสำนักงานกลต. เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ทาง Liberator ได้เปิดรับลูกค้าในกลุ่มแรกเพื่อทดสอบแอปพลิเคชั่นและสร้างปรากฏการณ์ผลตอบรับอันเป็นที่น่าพอใจ โดยมีนักลงทุนร่วมลงรายชื่อประสงค์จะเปิดบัญชีกว่า 1,000 ราย ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดและสมัครเปิดบัญชีออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชั่น "Liberator" พร้อมเทรดหุ้นและอนุพันธ์ได้อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 เป็นต้นไป และอีกไม่นานหลังจากนี้ทางทีมพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินแนวใหม่ ไม่ว่าจะเป็น P2P Lending, Margin, กองทุน เทรดต่างประเทศ เพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชั่นในเฟสต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการขายหุ้นสามัญใน บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด จำนวน 20,074,998 หุ้น หรือสัดส่วนร้อยละ 100 ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 240 ล้านบาท แก่ บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ "NATION" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานแผนยุทธศาสตร์ที่ตอกย้ำภารกิจการมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจหลักทรัพย์และ Fintech ของ NEWS ได้อย่างดีอีกด้วย
ที่มา: บางกอก ออทัม