มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ส่งต่อความสุขรับปีใหม่

อังคาร ๐๓ มกราคม ๒๐๒๓ ๑๓:๕๔
ช่วงเวลาแห่งการส่งต่อความสุขและรอยยิ้มของคนไทยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ขอเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ร่วมสร้างรอยยิ้มและความอิ่มเอมใจให้กับคนไทย ผ่านการส่งต่อโอกาสดีๆให้กับเด็กไทยในด้านการศึกษาและสาธารณสุข ตามเจตนารมณ์ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ที่ต้องการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ด้วยการส่งมอบตู้อบเด็กทารกแรกเกิดให้กับโรงพยาบาลประจำอำเภอที่ขาดแคลน เพื่อสร้างโอกาสในการรอดชีวิต ต่อลมหายใจให้กับทารก และมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนหนังสือและนำความรู้ความสามารถไปใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว และสร้างประโยชน์กลับคืนสู่สังคมต่อไป

ที่ผ่านมา มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแพทย์และสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้าง "โอกาส" ให้เด็กทารกแรกเกิดที่มีความเสี่ยงได้มีชีวิตอยู่รอดมากขึ้น ด้วยการมอบตู้อบเด็กทารกแรกเกิดให้กับโรงพยาบาลประจำอำเภอที่ขาดแคลนเพื่อใช้ในการรักษา รวมถึงเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับทารกเมื่อต้องส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลอื่นที่มีความพร้อมด้านเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์มากกว่า โดยมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ได้เริ่มมอบตู้อบเด็กทารกแรกเกิดให้กับโรงพยาบาลประจำอำเภอต่างๆตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันมอบไปแล้วทั้งสิ้น 70 เครื่อง 70 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยแพทย์จาก 2 โรงพยาบาลที่ได้รับมอบตู้อบเด็กจากมูลนิธิฯ ได้เล่าถึงความจำเป็นของ "ตู้อบเด็กทารกแรกเกิด" ดังนี้

พญ.ศศินิภา สิริสุทธิสุวรรณ กุมารแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่าโรงพยาบาลหลังสวนมีปริมาณเด็กคลอดอยู่ที่ประมาณ 120 คนต่อเดือน เครื่องที่มูลนิธิฯ บริจาคให้โรงพยาบาลจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เด็กวิกฤต เด็กคลอดก่อนกำหนด ให้ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม เพิ่มอัตราความสำเร็จในการดูแลทารกแรกเกิด ลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น อุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไปอาจจะติดเชื้อได้ ตู้นี้ก็จะเป็นการจำลองการอยู่ในท้องแม่ เป็นบ้านให้เด็ก ซึ่งตู้อบเด็กที่ได้รับบริจาคนี้ ทางโรงพยาบาลจะได้ใช้ดูแลทารกได้มากขึ้น ไม่ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลจังหวัดหรือโรงพยาบาลที่ไกลขึ้น

พญ.กอบกาญจน์ ชามพูนท สูตินารีแพทย์ โรงพยาบาลพรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า การที่มูลนิธิฯ ได้บริจาคตู้อบเด็กให้โรงพยาบาลทำให้สนับสนุนการทำงานได้มากขึ้น เพราะการส่งเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหากเราไม่ใช้ตู้อบเด็กจะควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ เราต้องควบคุมอุณหภูมิและการหายใจให้ดีก่อนส่งต่อไปโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เรายังไม่มีตู้อบเด็กเครื่องใหม่ เราจำเป็นต้องใช้ถุงถั่วเขียวเอาไปเวฟมาให้ความอบอุ่นเด็ก ทำให้มีความเสี่ยงเรื่องความร้อนที่มีมากเกินไปเพราะควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ และถ้าเด็กตัวเย็นเกินไปจะทำให้เด็กหยุดหายใจได้  ซึ่งบางครั้งเด็กที่คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย อายุครรภ์น้อย จำเป็นจะต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ถ้าไม่มีตู้อบเด็กทารกสำหรับเคลื่อนย้ายจะค่อนข้างเสี่ยงเพราะระยะทางไกล มีโอกาสที่เด็กจะเสียชีวิตระหว่างส่งตัวได้

ในด้านการศึกษา มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา สร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนที่เรียนดี ประพฤติดี มุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียร แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่ต้องการศึกษาต่อ ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้เยาวชนเหล่านี้ได้เรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ,ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือ ปวช. 1 โดยจะมอบทุนการศึกษาให้จนจบระดับปริญญาตรี เป็นการติดอาวุธทางการศึกษาให้เป็นใบเบิกทางได้เติบโตและเพิ่มโอกาสในการพัฒนาทักษะวิชาชีพ อันจะเป็นหนทางในการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งมูลนิธิฯ ได้เริ่มให้ทุนการศึกษามาตั้งแต่ปี 2563 ปัจจุบันมีนักเรียนที่ได้รับทุนแล้วทั้งสิ้น 41 คน โดย 2 นักเรียนที่ได้รับทุนจากมูลนิธิฯ ได้เผยถึงความรู้สึก ดังนี้

ด.ช. ระพีภัทร จันคำ หรือ น้องอ้น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหนองแวงวิทยาคม อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร นักเรียนทุนรุ่นแรกของมูลนิธิฯ กล่าวว่า อาศัยอยู่กับยายอายุ 72 ปี ไม่มีรายได้อื่นนอกจากเบี้ยผู้สูงอายุ จึงรู้สึกดีใจมากที่ได้รับทุนการศึกษา หากไม่ได้รับทุนคงจะได้เรียนจบแค่ชั้น ม.6 เพราะที่บ้านยากจน แต่เมื่อได้รับทุนแล้วทำให้สามารถเรียนต่อได้จนถึงปริญญาตรี เมื่อจบ ม.3 ตั้งใจจะสอบเข้าโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.มุกดาหาร เพราะมีความใฝ่ฝันอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ขอขอบคุณมูลนิธิฯ ที่ให้โอกาสได้เรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี ตนจะตั้งใจเรียน และทำความฝันให้เป็นจริง เมื่อเรียนจบจะได้มีอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว

นางสาวดรุณี พลศร หรือ น้องไอซ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร นักเรียนทุนรุ่นแรก กล่าวว่าดีใจที่ได้รับทุนการศึกษาของมูลนิธิฯ เพราะตอนแรกคิดว่าเมื่อจบ ม.3 คงไม่ได้เรียนต่อแล้วเนื่องจากปู่กับย่าไม่มีรายได้ ทำให้ชีวิตมีความหวังและมีโอกาสขึ้นมา ความใฝ่ฝันของตนคืออยากเป็นพยาบาล ตั้งใจว่าถ้าจบแล้วจะได้กลับมาทำงานเป็นพยาบาลดูแลคนในชุมชน ดูแลปู่กับย่าที่อายุมากแล้วและมีร่างกายไม่แข็งแรง

นับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ในการส่งความสุข สร้างรอยยิ้ม ต่อลมหายใจ และมอบโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนให้ได้มีชีวิตและอนาคตที่ดีต่อไปในภายภาคหน้า และแน่นอนว่ามูลนิธิฯ จะยังคงเดินหน้ามุ่งมั่นสานต่อปณิธานอันแรงกล้านี้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ที่มา: คิง เพาเวอร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ