ทั้งนี้ในส่วนการปฏิบัติการสนับสนุนของท่าเรือประจวบในการให้ความช่วยเหลือกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางประกอบด้วย
1) อำนวยความสะดวกพื้นที่บริเวณท่าเรือ และจัดเตรียมสำนักงานชั่วคราวเป็นศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย และวางแผนประชุมสั่งการของทัพเรือภาค 1 สำหรับอำนวยการและประสานการปฏิบัติ ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอาสากู้ภัยให้สามารถปฏิบัติงานที่รับผิดชอบได้อย่างมีเอกภาพ รวดเร็ว และทั่วถึง
2) ส่งเรือลากจูง (TUG) 3,100 แรงม้าที่ใช้ในการลากจูงเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ (เรือประจวบ 4 และเรือประจวบ 5) พร้อมเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการสนับสนุนภารกิจของกองทัพเรือ ณ จุดเกิดเหตุ และเรือลากจูงในการนำเรือเข้า-ออกเทียบท่าช่วงวันที่ค้นหาผู้สูญหาย
3) สนับสนุนท่าเทียบเรือ และพื้นที่ในการจอดอากาศยาน (ท่าเทียบเรือ C 4 และ C 5)
4) สนับสนุนรถเครน สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึง สาธารณูปโภค เช่น น้ำ ไฟฟ้า
5) สนับสนุนเสบียง และเป็นศูนย์กลางรวบรวมเสบียงสิ่งของต่างๆ ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้านและชุมชน พร้อมประสานกับศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่อส่งต่อไปยังให้ทีมผู้ปฎิบัติงาน
6) จัดทีมงานหน้าท่าและบนท่าที่พร้อมปฏิบัติภารกิจสนับสนุน
ท่าเรือประจวบ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนและช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติสำคัญเพื่อความปลอดภัยทางทะเล โดยสนับสนุนท่าเรือให้เป็นพื้นที่ปฏิบัติการรองรับการเผชิญเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติสำคัญที่ผ่านมา หลายครั้ง อาทิ เป็นศูนย์เผชิญเหตุกรณีพายุปาบึก, สนับสนุนกองทัพเรือนำเรือหลวงข้าจอดเทียบท่าในการออกปฏิบัติราชการการตรวจสอบคราบน้ำมัน เหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล ป.อันดามัน 2 อับปางห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล, จัดเรือ ต. 81 สนับสนุนกองทัพเรือให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น
สำหรับเครื่องหมายสหัทยานาวี เป็นเครื่องหมายของกองทัพเรือ ที่มอบให้แก่บุคคลต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กำหนด กล่าวคือ เป็นผู้ที่กองทัพเรือเห็นสมควร หรือเป็นผู้สนับสนุนกองทัพเรือ หรือทำคุณประโยชน์ต่อสาธารณชนและประเทศชาติร่วมกับกองทัพเรือ ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ และเสียสละ โดย สหัทยานาวี มีความหมายว่า "กองทัพเรือขอบคุณที่ได้รับความร่วมใจ"
ที่มา: สหวิริยาสตีลอินดัสตรี