นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า บริษัท อี.คิว.รับเบอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ได้รับการรับรองฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ ฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction : CFR) ของสินค้ายางแท่ง STR 10 และ STR 20 จากองค์การบริหารการจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ซึ่งเป็นการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง กระบวนการผลิต การใช้งาน และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่า ตลอดกระบวนการผลิตสินค้ายางแท่งของกลุ่มบริษัทฯ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีฐาน (ปี 2561)
นอกจากนี้ สินค้ายางแท่งของกลุ่มบริษัทฯ ยังมีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของผลิตภัณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์เปรียบเทียบสมรรถนะ (Benchmark) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เป็นการตอกย้ำว่ากลุ่มบริษัทฯ มีการดำเนินการที่สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทำให้สินค้าของกลุ่มบริษัทฯ เป็นสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Product) ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า คู่ค้า และผู้บริโภค ที่มีความห่วงใยในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน TEGH โดยบริษัทในเครืออีก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท อี.คิว.รับเบอร์ จำกัด, บริษัท ไทยอีสเทิร์น อินโนเวชั่น จำกัด, บริษัท อีสเทิร์น ปาล์ม ออยล์ จำกัด และ บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรภาคอุตสาหกรรม (Carbon Footprint for Organization: CFO) จาก TGO แล้ว ซึ่งจะแสดงปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emissions and Removals) ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมการดำเนินงาน และกิจกรรมขององค์กร อันจะนำไปสู่การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการเตรียมความพร้อมในกรณีที่ภาครัฐกำหนดให้มีการรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Reporting) เพื่อใช้เป็นแนวทางบริหารจัดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ตามแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ปี 2564-2573 อีกด้วย
"TEGH ได้เริ่มดำเนินการตามแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ภายใต้การบริหารจัดการแบบ Thai Eastern Symbiosis ที่มีการบูรณาการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีการบริหารจัดการด้านพลังงาน น้ำ และของเสีย รวมถึงมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการ ควบคู่ไปกับกิจกรรมการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) และมีแผนที่จะทำการกักเก็บคาร์บอน (Carbon sequestration) ภายในองค์กร โดยเราตั้งเป้าเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Organization) ภายในปี 2573 เพื่อก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Green House Gas Organization) ต่อไป" นางสาวสินีนุช กล่าวในที่สุด
ที่มา: ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์