บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะกองทุนรับเศรษฐกิจปี 66 เน้นลงทุนตราสารหนี้และอ้างอิงราคาทองคำ เปิดตัวกองทุน SCBDSHARC1YD เสนอขาย 9 - 17 ม.ค.นี้

จันทร์ ๐๙ มกราคม ๒๐๒๓ ๐๙:๒๕
นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2566 นี้ ยังมีความไม่แน่นอนสูง มีความเสี่ยงเกิดการชะลอตัวในหลายประเทศ และในบางประเทศก็มีโอกาสเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ จากวิกฤตพลังงานที่ยืดเยื้อ เงินเฟ้อที่ลดลงช้า และสภาวะการเงินที่ยังตึงตัวจากนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางในหลายประเทศ โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เป็นปัจจัยที่ยังคงมีผลต่อการลงทุนมากที่สุด โดย FED ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบต่อเนื่อง และมีแนวโน้มขยับขึ้นสูงไปถึงที่ระดับ 5%-5.25% หากเงินเฟ้อยังไม่ทยอยลดลงมาอยู่ในระดับเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูง การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่เอาชนะเงินเฟ้อได้ไม่ยาก บริษัทฯ จึงแนะจัดพอร์ตลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างตราสารหนี้ ที่มีการปรับราคาลงในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น และทองคำ ที่มักจะปรับตัวสอดคล้องไปกับภาวะเงินเฟ้อ และจัดเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงหรือเป็นหลุมหลบภัย สำหรับการลงทุนในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุนได้

ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการออกเสนอขายกองทุนที่เป็นการลงทุนแบบ Double Structured Complex Return มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเห็นว่ามีจุดเด่นด้านโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการที่ผู้จัดการกองทุนเลือกลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี โดยมีเป้าหมายให้เงินลงทุนในส่วนนี้เติบโตครอบคลุมเงินต้น และแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในสัญญาออปชั่น (Option) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาสินทรัพย์ที่น่าสนใจเพื่อสร้างผลตอบแทน โอกาสนี้ บริษัทฯ จึงเปิดตัวกองทุนใหม่รับปี 66 คือ กองทุน SCBDSHARC1YD หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Double Structured Complex Return 1YD ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย กองทุน Complex Fund อายุ 1 ปี ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้และทองคำ โดยจะมีการลงทุนในตราสารหนี้ ประมาณร้อยละ 98.60 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อรับเงินลงทุนคืนพร้อมผลตอบแทน/ดอกเบี้ย ที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินต้น และสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับกองทุน ด้วยการลงทุนในสัญญาออปชั่น (Option) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาทองคำ Gold spot (XAUUSD) อีกร้อยละ 1.40 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ลักษณะการจ่ายผลตอบแทนของสัญญาเป็นแบบ twin -win เมื่อราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่เกิน 12% เมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา โดยกองทุนจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 9-17 มกราคม 2566 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท

นางนันท์มนัส กล่าวว่า แม้ตลาดตราสารหนี้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและทิศทางการดำเนินนโยบายของ FED มาอย่างหนักในช่วงปี 2565 แต่จากอัตราผลตอบแทนที่ได้ปรับสูงขึ้นหลังการเทขายที่เกิดขึ้นทำให้ตราสารหนี้มีความน่าสนใจต่อการเข้าลงทุน นอกจากนี้ ตราสารประเภททองคำ ก็มีปัจจัยหนุนทางด้านราคาที่เด่นชัดมากขึ้น ทั้งจาก แรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่น้อยลงเมื่อเทียบกับปี 2565 และ ความต้องการเข้าถือครองทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนในภาวะที่มีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือที่เรียกว่า Recession hedge รวมถึงข่าวการเปิดประเทศของจีน (China reopening) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มี Consumer Demand สำหรับทองคำมากสุดในโลก ดังนั้น การกลับมาเปิดประเทศน่าจะช่วยหนุนความต้องการให้ฟื้นกลับมา และเป็นโอกาสให้กับกองทุนที่สามารถหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำได้ อีกทั้ง อายุโครงการของกองทุน มีอายุเพียง 1 ปี จึงมองว่านอกจากจะเป็นโอกาสรับผลตอบแทนแล้ว ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องได้อีกด้วย

กองทุนมีความเสี่ยงผิดชำระหนี้ (default risk) ที่อาจเกิดขึ้นจากการผิดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร/เงินฝาก ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนได้ และผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วงเวลา 1 ปี กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เช่น สัญญาออปชั่น สัญญาวอร์แรนท์ (Warrant) ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 02-777-7777 กด 0 กด 6 และผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://scbam.info/3X7JUoR

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน

ที่มา: หลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO