"บล.พาย" สัปดาห์นี้ปัจจัยหลักได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐฯ

จันทร์ ๐๙ มกราคม ๒๐๒๓ ๑๓:๐๔
บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ "Pi" "พาย" มองว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปรับขึ้น 2.1% หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แม้จะสูงกว่าตลาดประเมินไว้แต่ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงต่ำกว่าตลาดประเมิน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.15% ไร้ปัจจัยที่มีนัยยะ

สำหรับภาคแรงงานสหรัฐฯพบว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรอยู่ที่ 2.23 แสนตำแหน่งพร้อมกับอัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 3.5% ดีกว่าตลาดคาดไว้ที่ 3.7% อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ตลาดปรับขึ้นแรงเพราะว่าตลาดไปให้น้ำหนักกับค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ปรับขึ้นเพียง 0.3%MoM ต่ำกว่าตลาดคาด 0.4%MoM และเป็นการลดลงต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อช่วยให้ตลาดคลายกังวลกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆบ่งชี้ถึงการอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ PMI ภาคบริการที่ต่ำกว่าตลาดคาดและต่ำกว่าระดับ 50 (49.6) พร้อมกับคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานหดตัวที่ 1.8%MoM แย่กว่าตลาดประเมินว่าจะหดตัวเพียง 0.9%MoM ภายหลังจากรายงานพบ US Bond Yield 2 , 10 ปีปรับลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงการผ่อนคลายดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ส่วนสัปดาห์นี้ตลาดจะไปให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อสหรัฐฯที่มีกำหนดการจะเปิดเผยในช่วง 20.30 วันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย Bloomberg ประเมินไว้ที่ 6.5%YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.1%YoY หากต่ำกว่าตลาดคาดการณ์มองเป็นบวกเล็กน้อยกับสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงค่าเงินบาทให้ยังคงทิศทางแข็งค่าต่อไป ถัดมาตลาดจะไปให้น้ำหนักกับถ้อยแถลงของประธาน FED ในวันอังคารซึ่งมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมวิชาการตลาดน่าจะจับตารอดูความเห็นเงินเฟ้อและดอกเบี้ย หากยังส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราชะลอตัวลง ก็ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ (เชื่อว่าจะออกมาแบบนั้น) ประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวกรอบ 1660 - 1690 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังให้เน้นเป็นเพียงแค่ Trading ยังมองตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปพอสมควรทั้งผ่อนคลายดอกเบี้ย ผ่อนคลายเงินเฟ้อ และการเปิดประเทศของจีน อย่างไรก็ตามช่วงถัดไปยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจถดถอยและปรับลดประมาณการกำไรบริษัทฯ ส่วนหุ้นแนะนำเน้นที่ยังปรับขึ้นน้อยแต่มีปัจจัยบวก อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (SCB) ค้าปลีก (BJC HMPRO) สื่อสาร (ADVANC INTICH) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC RATCH) สื่อนอกบ้าน (PLANB) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)

GPSC (ถือ / ราคาเป้าหมาย 69.00 บาท) คาดว่าอัตรากำไรจะฟื้นตัวเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังปี 2023 ถึงปี 2024 จากคาดการณ์ว่าความตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซียจะคลี่คลายลงและราคาก๊าซกลับสู่ระดับปกติ

SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 144.00 บาท) SCB X ตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้เฉลี่ยที่ 10% ในปี 2022-25 ด้วยส่วนแบ่งธุรกิจดิจิทัลที่เพิ่มเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม ด้วยเป้าหมายในการเร่งอัตราการเติบโตของกำไรที่เร็วยิ่งขึ้น และเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ บริษัทจะเน้นธุรกิจ Gen 2 และ Gen 3 มากขึ้น โดยมีแผนการทำ IPO ธุรกิจ CARD X (ROE มากกว่า 20%) และ Innovest X (ROE 25%) ในปี 2025 และ AUTO (ROE มากกว่า 25%) ในปี 2027

ที่มา: บางกอก ออทัม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ