เอสซีจี ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ นิปปอน สตีล เอ็นจิเนียริ่ง และ ไทยนิปปอน สตีล เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ศึกษาเทคโนโลยีดักจับและใช้ประโยชน์คาร์บอน จากการผลิตปูนซีเมนต์ในไทยและประเทศในภูมิภาคอาเซียน

ศุกร์ ๑๓ มกราคม ๒๐๒๓ ๑๑:๑๖
นายสุรชัย นิ่มละออ Chief Innovation & Technology Officer บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด และนายวิเชษฐ์ ชูเชื้อ Chief Operating Officer บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลง

"การศึกษาความเป็นไปได้ในการดักจับคาร์บอนและการใช้ประโยชน์จากก๊าซเผาไหม้ ที่ปล่อยจากกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" กับนาย Takashi Suzuki (ทาคาชิ ซูซูกิ) BoD Environment Energy Sector - Nippon Steel Engineering Co., Ltd. (NSE) และ นาย Masaya Watanabe (มาซายะ วาตานาเบะ) CEO - Thai Nippon Steel Engineering and Construction Corporation, Ltd. (TNS) โดยความร่วมมือดังกล่าวได้รับทุนสนับสนุนบางส่วนจาก New Energy and Industrial Technology Development Organization (NEDO) ของรัฐบาลญี่ปุ่น สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นำโดย นายชนะ ภูมี Vice President - Cement and Green Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี และนาย Yukito Ishiwa (ยูกิโตะ อิชิวะ) Representative Director and President - NSE Group เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero Cement & Concrete ในปี 2050

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 30 ล้านตันต่อปี ซึ่งอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ได้ให้ความสำคัญและเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อย่างเร่งด่วน หนึ่งในแผนการดำเนินงาน คือ การศึกษาและนำเอา Carbon Capture and Utilization (CCU) เทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับและเหมาะสำหรับการนำมาใช้ดักจับก๊าซ เผาไหม้ที่มีความดันค่อนข้างต่ำและความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำในปริมาณมาก เช่น ก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ทุกประเภท รวมถึงก๊าซจากปล่องของโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ เป็นต้น

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ทางเอสซีจี และ NSE จะได้ร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในระบบการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบดูดซับสารเคมีที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัท ที่เรียกว่า "ESCAP(TM)"[1] เพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากก๊าซเผาไหม้ที่ปล่อยออกมาจากโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ของเอสซีจี ที่จังหวัดสระบุรี และจะพัฒนาโครงการ[2] และโมเดลทางธุรกิจในการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ประโยชน์ โดยจะเปลี่ยนให้เป็นก๊าซมีเทน รวมถึงก๊าซออกซิเจนที่เกิดจากกระบวนการผลิต จะถูกนำกลับไปใช้ในโรงงานปูนซีเมนต์ นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดจากระบบส่วนหนึ่งจะถูกนำไปหมุนเวียนในระบบ ESCAP(TM) เพื่อเป็นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตปูนซีเมนต์ด้วยความรับผิดชอบต่อโลกและสิ่งแวดล้อม โดยเบื้องต้นเอสซีจี มีแผนเตรียมโรงงานนำร่อง (Demonstration Plant) ที่พัฒนาร่วมกับ NSE ในปี 2024 (โดยประมาณ) เพื่อนำผลการศึกษาความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีดังกล่าว และนำข้อมูลไปออกแบบและติดตั้งโรงงานในเชิงพาณิชย์ (Commercial Plant) ต่อไป เพื่อให้ได้ระบบที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับโรงงานผู้ผลิตปูนซีเมนต์ อันเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของเอสซีจี เพื่อบรรลุเป้าหมาย "Net Zero Cement & Concrete ภายในปี 2050" สอดคล้องตามแนวทาง ESG 4 Plus ได้แก่ "1. มุ่ง Net Zero 2. Go Green 3. Lean เหลื่อมล้ำ 4. ย้ำร่วมมือ Plus เชื่อมั่น โปร่งใส"

ที่มา: เอสซีจี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๒๑ ชิงช้าสวรรค์ 2025 เก็บคะแนนโค้งสุดท้าย ก่อนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
๑๑:๑๙ Free Fire World Series Southeast Asia 2025 Spring เตรียมเปิดฉาก 25 เม.ย.นี้ 18 ทีมสุดแกร่งเตรียมปะทะศึกเดือด!
๑๑:๒๕ MOTHER ประชุมผู้ถือหุ้นปี 68 ลุยเปิด 3 สาขาเพิ่มปีนี้ ดันผลงานโตต่อเนื่อง
๑๑:๐๙ เคทีซีรวมพลังสมาชิกปันน้ำใจกว่า 28 ล้านบาท ร่วมสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับน้องๆ มูลนิธิเด็กโสสะฯ
๑๑:๒๖ ยูโอบี ประเทศไทย สนับสนุนการเติบโตของเอสเอ็มอีในธุรกิจอีคอมเมิร์ซกับโครงการ E-Commerce Accelerator
๑๑:๒๙ Via 34 ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม Low Rise ใจกลางสุขุมวิท รับวิวเมือง
๑๑:๑๐ PeeKaBoo Junior จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด พาน้องๆ หนาวสุดขั้วในโลกน้ำแข็ง- อร่อยกับเมนูเฮลท์ตี้ - สนุกสร้างสรรค์กับ DIY
๑๑:๐๑ แพ็กเกจ STAY DINE โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ
๑๑:๒๒ กาตาร์ แอร์เวย์ส เปิดตัวแพ็กเกจทริป FIFA World Cup 2026(TM) ในฐานะสายการบินระดับโลกที่เป็นพันธมิตรของ FIFA และ FIFA World Cup 2026(TM)
๑๑:๔๔ เซ็น เอกซ์ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568