นายสุชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา PTT Lubricants ได้สนับสนุนวงการกีฬาไทย และมอเตอร์สปอร์ตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของกีฬาฟุตบอลลีกระดับภูมิภาคในประเทศไทยที่ ปัจจุบันมีการแข่งขันหลากหลายรายการ โดยรายการ PTT Lubricants Semi-Pro League นี้ จะมีส่วนช่วยในการสนับสนุน และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาฟุตบอลอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเพื่อพัฒนาระบบการแข่งขันจากระดับภูมิภาคสู่ระดับสากล โดยหวังว่าการเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน "PTT Lubricants Semi-pro League" ในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของนักกีฬาฟุตบอลไทย จะช่วยผลักดันให้นักกีฬาในส่วนภูมิภาคได้พัฒนาทักษะและประสบการณ์ด้านกีฬาฟุตบอล ตลอดจนก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับอาชีพ เพื่อเฟ้นหานักฟุตบอลเข้าสู่ทีมชาติ และได้มีโอกาสพัฒนาขีดความสามารถเพื่อก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป
สำหรับรายการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ เซมิโปร ลีก ประจำปี 2566 เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกกึ่งอาชีพที่จัดขึ้นเพื่อสร้างรากฐานในด้านต่าง ๆ ให้กับสโมสรอาทิเช่น โครงสร้างสนาม การจัดการแข่งขัน รวมไปถึงการจัดการแข่งขันที่ยกระดับให้อยู่ในรูปแบบของลีกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงประสบการณ์การเตรียมพร้อมสนามในฐานะทีมเหย้า และการบริหารสโมสรที่มีการแข่งขันระยะยาวในรูปแบบลีกอาชีพ โดยการแข่งขัน PTT Lubricants Semi-pro League 2022/23 มีการแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 ภูมิภาค ทั่วประเทศไทยโดยมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 34 ทีม โดยในทุกภูมิภาคที่ทำการแข่งขันจะทำการแข่งขันในรูปแบบทีมเหย้า และทีมเยือน ตามจำนวนทีมในแต่ละภูมิภาคที่แข่งขัน มีการคิดคะแนนตามระบบลีก ทีมชนะได้รับ 3 คะแนน เสมอได้รับ 1 คะแนน แพ้ไม่ได้คะแนน เพื่อให้ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันได้สัมผัสรูปแบบการแข่งขันที่ใกล้เคียงในระดับลีกอาชีพ ในการวางรากฐานให้แต่ละสโมสรมีความพร้อมในการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 3
"สิ่งสำคัญในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่นอกเหนือจากผลแพ้ชนะ และผลงานของทีมแล้วนั้น จะเป็นเรื่องของประสบการณ์ ทั้งประสบการณ์ขณะแข่งขันในสนาม การสร้างความคุ้นชินของรูปแบบการแข่งขัน รูปแบบการจัดแข่งขัน รูปแบบ กฎ กติกา การตัดสิน ทั้งนี้ PTT Lubricants และ FIT Auto ตั้งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพความพร้อมของทุกฝ่าย ร่วมสนับสนุนการเติบโตของไทยลีก และสร้างแรงบันดาลใจให้นักฟุตบอลไทยรุ่นใหม่สามารถก้าวสู่ลีกระดับโลกไปด้วยกัน" นายสุชาติ กล่าวตอนท้าย
PTT Lubricants ดำเนินธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นแบบครบวงจรจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ตั้งแต่การวางแผนจัดซื้อ จัดหาวัตถุดิบ การผลิต การกระจายสินค้า และการบริการแบบครบวงจรทั้งก่อน และหลังการขาย อีกทั้งสามารถคิดค้นพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครบวงจรสำหรับตลาดน้ำมันหล่อลื่น ตั้งแต่สินค้าภาคยานยนต์ อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่ม PERFORMA สำหรับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน ผลิตภัณฑ์กลุ่ม DYNAMIC สำหรับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล และผลิตภัณฑ์กลุ่ม CHALLENGER สำหรับรถจักรยานยนต์ รวมทั้งน้ำมันหล่อลื่นภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ตลอดไปจนถึงสามารถรองรับตลาด OEMs ของผู้ผลิตรถยนต์ได้ โดยมีการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด The Moving Innovation ที่ตั้งมั่นว่าจะพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง และค้นหาหรือพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของผู้ใช้งานอย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ PTT Lubricants ได้รับคัดเลือกเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ในหมวดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นรถยนต์ จากการสำรวจความนิยมของผู้บริโภคชาวไทย เพื่อเฟ้นหาแบรนด์สินค้า และบริการที่เป็นหนึ่งในใจผู้บริโภค ทั้งด้านคุณภาพ การตลาด ตลอดจนการมีส่วนช่วยในการดูแลสังคมในด้านต่างๆ อีกทั้งยังได้ร่วมรับรางวัล Thailand's Most Admired Brand & Why We Buy 2022 ในฐานะน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือที่สุดในใจผู้บริโภคเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 13 และรางวัล Innovation Brand แบรนด์ที่มีนวัตกรรม หรือความคิดสร้างสรรค์นำเสนอออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมออีกด้วย
ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์แบบเบาและดูแลรักษารถยนต์ตามระยะทาง ซึ่งเรียกว่า "Light Maintenance" นอกจากนี้ศูนย์บริการ FIT Auto ยังให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในรูปแบบ One-Stop-Service เริ่มตั้งแต่การดูแลรักษารถยนต์ตามระยะทางและการซ่อมบำรุงต่างๆ โดยมีช่างผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการอย่างมีมาตรฐานเพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น โดยศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ยังมีบริการหลังการขายพร้อมด้วยการรับประกันสินค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่ารถยนต์ทุกคันที่ผ่านการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto นั้นได้ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบจากช่างผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้าเลือกเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการยานยนต์แห่งนี้ โดยปัจจุบัน FIT Auto มีศูนย์อบรมเชิงปฏิบัติการ FIT Auto Academy ณ สถาบันพัฒนาศักยภาพผู้นำและธุรกิจ (OR Academy) เพื่อพัฒนาทักษะช่างให้มีศักยภาพในการปฎิบัติงานเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเพื่อรองรับการให้บริการซ่อมบำรุงตามระยะทาง (Light maintenance) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังเข้ามาเป็นหนี่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
ที่มา: คิปส์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด