นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) เปิดเผยว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา TFEX มีปริมาณการซื้อขายรวม 136,316,012 สัญญา เฉลี่ยวันละ 565,627 สัญญา ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า โดยสินค้ากลุ่ม Equity ยังได้รับความนิยมสูง ไม่ว่าจะเป็น Stock Futures หรือ SET50 Futures ที่มีสัดส่วนการซื้อขาย 42% และ 40% ตามลำดับ รองลงมาเป็นสินค้ากลุ่มทองคำ ได้แก่ Gold Online Futures และ Gold Futures ที่มีสัดส่วนรวม 9% และ USD Futures ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 7% ในขณะที่สินค้าที่เติบโตโดดเด่น คือ USD Futures โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นถึง 192% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากความผันผวนของค่าเงินและการขยายเวลาการซื้อขายในช่วงกลางคืน รวมไปถึง SET50 Options และ SET50 Futures ที่เติบโต 23% และ 15% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อน ด้านสถานะคงค้าง (Open Interest) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 อยู่ที่ 3,983,852 สัญญา เพิ่มขึ้น 5% จากสิ้นปีก่อน ส่วนผู้ลงทุนเติบโต 7% โดยมีบัญชีซื้อขายอยู่ที่ 290,628 บัญชี
สำหรับปี 2566 TFEX มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและรองรับการเติบโตของตลาดอนุพันธ์ โดยจะเริ่มใช้ระบบซื้อขายใหม่ในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ โดย TFEX ได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์การซื้อขายไปพร้อมกันด้วยเพื่อให้เหมาะกับสภาพการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายเวลาการซื้อขายสินค้าที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Futures) ให้สอดคล้องกับตลาดโลก และเพิ่มสินค้าใหม่ในกลุ่ม Currency รวมถึงส่งเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง สำหรับการขยายฐานผู้ลงทุนนั้น TFEX ให้ความสำคัญกับการใช้ช่องทางออนไลน์ ทั้งในแง่การทำการตลาดร่วมกับสมาชิก และการส่งเสริมความรู้แก่ผู้ลงทุน ซึ่ง TFEX อยู่ระหว่างการปรับปรุงเว็บไซต์ www.TFEX.co.th ใหม่ โดยปรับการเสนอเนื้อหา (Content) ข้อมูล และการใช้งานให้สะดวกและง่ายมากขึ้น ซึ่งเน้นการให้ความรู้ด้านอนุพันธ์แบบครบวงจร สามารถนำไปไช้งานได้จริง และเชื่อมโยงไปจนถึงการเปิดบัญชีซื้อขายของสมาชิกผ่านช่องทางออนไลน์ที่สะดวกรวดเร็ว
ผู้สนใจซื้อขายสามารถติดต่อบริษัทสมาชิก TFEX หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.TFEX.co.th โทร 0 2009 9999
ที่มา: ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)