โรคหืดเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่พบมากในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน "เด็กก่อนวัยเรียนหรือเด็กเล็กช่วงอายุ 1 ถึง 5 ขวบปีแรก" ซึ่งมักจะมีอาการเกี่ยวข้องกับการอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจร่วมกับการมีภาวะหลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดปัญหาการไหลเวียนของลมที่เข้า-ออกจากปอด อันเนื่องมาจากภาวะที่หลอดลมตีบแคบ ทำให้ผนังหลอดลมหนาตัวขึ้นและมีเสมหะปริมาณมากขึ้น
จากสถิติของประเทศไทยพบว่าในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคหืดเด็กกว่า 7.8 - 15%1 โดยผู้ป่วยเด็กส่วนใหญ่ไม่สามารถควบคุมอาการของโรคได้ เพราะผู้ดูแลขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค รวมถึงขาดทักษะการใช้ยาที่ถูกต้องและต่อเนื่อง ซึ่งการดูแลโรคหืดที่ไม่เหมาะสมนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อพัฒนาการและกิจวัตรประจำวันของเด็ก เช่น การถูกจำกัดในการเล่นกีฬาและร่วมกิจกรรมกับเพื่อน การขาดเรียนบ่อยจนเรียนไม่ทันเพื่อน การเข้าห้องฉุกเฉินหรือนอนโรงพยาบาลบ่อยครั้ง รวมไปถึงทรมานจากอาการกำเริบเฉียบพลัน เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการเสริมความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคหืด ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การควบคุมโรคหืดได้ดีขึ้น และสนับสนุนให้ผู้ป่วยเด็กได้รับการรักษาโรคหืดตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย จึงได้เปิดตัวแคมเปญนี้ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับโรคหืดในเด็ก รวมถึงแนะนำวิธีการดูแลผู้ป่วยเด็กที่เหมาะสม ตลอดไปจนถึงให้ข้อมูลในการเลือกอุปกรณ์พ่นยาแบบต่าง ๆ ซึ่งครอบคลุมไปจนถึงวิธีการใช้งานเครื่องพ่นยาแบบฝอยละออง โดย คุณหมอบันนี่ และเคล็ดลับในการเปลี่ยนการพ่นยาให้กลายเป็นกิจกรรมที่แสนสนุกด้วยการสร้างประสบการณ์ให้ผู้ป่วยเด็กและผู้ดูแลได้ทำร่วมกัน รวมถึงลดการหวาดกลัวจากการใช้เครื่องพ่นยาแบบฝอยละอองอีกด้วย
ทั้งนี้ เครื่องพ่นละอองยา (Nebuliser) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเปลี่ยนน้ำยาให้เป็นละอองฝอยของยาเพื่อง่ายต่อการสูดดมผ่านหน้ากากพ่นยาหรือที่พ่นยาทางปาก มีประโยชน์อย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีข้อกำจัดในการใช้อุปกรณ์พ่นยาอื่นๆ โดยสามารถนำยาเข้าสู่ทางเดินหายใจได้โดยตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว จึงเหมาและเป็นที่นิยมสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน ไปจนถึงผู้สูงอายุ เนื่องจากมีวิธีใช้ที่ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคในการสูดยาเหมือนยาพ่นชนิดอื่น ๆ โดยจะช่วยควบคุมโรคหืด และลดความเสี่ยงต่อการเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการโรคหืดกำเริบเฉียบพลัน
แอสตร้าเซนเนก้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แคมเปญ ปาร์คเกอร์แพนด้า (Parker Panda) และ คุณหมอบันนี่ (Dr. Bunny) จะเป็นหนึ่งในสื่อการเรียนรู้สำหรับแพทย์และครอบครัว เพื่อช่วยสอนเด็กก่อนวัยเรียนเกี่ยวกับโรคหืด และเตรียมความพร้อมให้พวกเขารับมือกับโรคดังกล่าวได้อย่างกล้าหาญ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยเด็กได้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างอิสระ สดใส และแข็งแรงต่อไป
ที่มา: แอสตร้าเซนเนก้า