อีอีซี ร่วมกับภาคเอกชนจัดทำ Market Sounding เชื่อมการลงทุนศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ

พฤหัส ๐๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๓ ๑๕:๕๓
นายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เป็นประธานกล่าวเปิด การประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุน (Market Sounding) สำหรับโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ครั้งที่ 1 เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานภาคเอกชนไทยต่างๆ ที่มีความสนใจต่อข้อมูลรายละเอียดของโครงการฯ ประมาณ 50 คน โดยการจัด Market Sounding ครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากภาคเอกชนชั้นนำ ซึ่งได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และมีความสนใจเข้าร่วมลงทุนในโครงการ ฯ อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในเครือ BDMS สนใจในด้านการลงทุนธุรกิจการแพทย์ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (SCG) สนใจในด้านเทคโนโลยีการเชื่อมโยงระบบอินเตอร์เน็ต (IOT) ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและ MUFG ได้ให้ความสนใจในธุรกิจด้านเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ในพื้นที่โครงการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) สนใจในด้านการลงทุนโครงการสร้างพื้นฐาน และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือNT พร้อมจะสนับสนุนการลงทุนด้านโครงข่ายโทรคมนาคมในพื้นที่โครงการ เป็นต้น โดยอีอีซี จะได้นำข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ จากภาคเอกชนที่ได้รับ เพื่อนำไปประกอบการพัฒนาโครงการฯ ต่อไป

ทั้งนี้ โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ได้รับความเห็นชอบจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในโครงการเมกะโปรเจกต์ที่เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาศูนย์กลางธุรกิจและการเงินระดับภูมิภาคมาตรฐานเทียบเท่าสากลในพื้นที่อีอีซี และตั้งเป้าหมายเป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 1 ใน 10 ของโลก และเป็นต้นแบบเมืองน่าอยู่อัจฉริยะสำหรับการพัฒนาเมืองใหม่ทั่วประเทศ ซึ่งอีอีซี มั่นใจว่า โครงการฯ ดังกล่าวจะเป็นการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค พัฒนาให้เป็นเมืองธุรกิจควบคู่กรุงเทพฯ ที่มีระบบนิเวศทางธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ นวัตกรรม และเทคโนโลยี และเป็นเมืองแห่งอนาคตรองรับวิถีชีวิต และการทำงานของคนรุ่นใหม่ และคาดว่าจะเกิดการสร้างงานทางตรงได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนตำแหน่ง มูลค่าจ้างงานกว่า 1.2 ล้านล้านบาท และที่อยู่อาศัยของคนทุกกลุ่มในราคาที่เป็นเจ้าของได้ ดึงดูดให้ประชาชนย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ คู่ไปกับสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

โดยโครงการ ฯ ได้จัดทำผังการใช้ประโยชน์ที่ดินและแบ่งโซนตามกลุ่มธุรกิจหลัก แบ่งออกเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. ศูนย์สำนักงานใหญ่ภูมิภาคและศูนย์ราชการ 2. ศูนย์กลางการเงิน EEC 3. ศูนย์การแพทย์แม่นยำ 4. ศูนย์การศึกษา วิจัย-พัฒนา ระดับนานาชาติ และ 5. ศูนย์ธุรกิจอนาคต อีกทั้งยังมีการพัฒนาพื้นที่ที่อยู่อาศัยชั้นดีสำหรับคนทุกกลุ่มรายได้ นอกจากนี้ ยังได้วางแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่เปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุน อาทิ ระบบไฟฟ้าและพลังาน ระบบบริหารจัดการน้ำ ระบบจัดการของเสีย ระบบคมนาคมขนส่ง ระบบดิจิทัล และระบบอุโมงค์สาธารณูปโภค รวมทั้งมีการออกแบบวางผังระบบสาธารณูปโภคอัจฉริยะต่างๆ ครบตามเกณฑ์ชี้วัดการพัฒนาเมืองน่าอยู่อัจฉริยะทั้ง 7 องค์ประกอบ ได้แก่ Smart Environment, Smart Energy, Smart Mobility, Smart Living, Smart People, Smart Economy, Smart Governance ส่งผลให้มีระบบนิเวศที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวก เอื้อต่อการดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานและอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย

ที่มา: โมเดิร์นเทียร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ