ทั้งนี้ โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ได้รับความเห็นชอบจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในโครงการเมกะโปรเจกต์ที่เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาศูนย์กลางธุรกิจและการเงินระดับภูมิภาคมาตรฐานเทียบเท่าสากลในพื้นที่อีอีซี และตั้งเป้าหมายเป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 1 ใน 10 ของโลก และเป็นต้นแบบเมืองน่าอยู่อัจฉริยะสำหรับการพัฒนาเมืองใหม่ทั่วประเทศ ซึ่งอีอีซี มั่นใจว่า โครงการฯ ดังกล่าวจะเป็นการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค พัฒนาให้เป็นเมืองธุรกิจควบคู่กรุงเทพฯ ที่มีระบบนิเวศทางธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ นวัตกรรม และเทคโนโลยี และเป็นเมืองแห่งอนาคตรองรับวิถีชีวิต และการทำงานของคนรุ่นใหม่ และคาดว่าจะเกิดการสร้างงานทางตรงได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนตำแหน่ง มูลค่าจ้างงานกว่า 1.2 ล้านล้านบาท และที่อยู่อาศัยของคนทุกกลุ่มในราคาที่เป็นเจ้าของได้ ดึงดูดให้ประชาชนย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ คู่ไปกับสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
โดยโครงการ ฯ ได้จัดทำผังการใช้ประโยชน์ที่ดินและแบ่งโซนตามกลุ่มธุรกิจหลัก แบ่งออกเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. ศูนย์สำนักงานใหญ่ภูมิภาคและศูนย์ราชการ 2. ศูนย์กลางการเงิน EEC 3. ศูนย์การแพทย์แม่นยำ 4. ศูนย์การศึกษา วิจัย-พัฒนา ระดับนานาชาติ และ 5. ศูนย์ธุรกิจอนาคต อีกทั้งยังมีการพัฒนาพื้นที่ที่อยู่อาศัยชั้นดีสำหรับคนทุกกลุ่มรายได้ นอกจากนี้ ยังได้วางแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่เปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุน อาทิ ระบบไฟฟ้าและพลังาน ระบบบริหารจัดการน้ำ ระบบจัดการของเสีย ระบบคมนาคมขนส่ง ระบบดิจิทัล และระบบอุโมงค์สาธารณูปโภค รวมทั้งมีการออกแบบวางผังระบบสาธารณูปโภคอัจฉริยะต่างๆ ครบตามเกณฑ์ชี้วัดการพัฒนาเมืองน่าอยู่อัจฉริยะทั้ง 7 องค์ประกอบ ได้แก่ Smart Environment, Smart Energy, Smart Mobility, Smart Living, Smart People, Smart Economy, Smart Governance ส่งผลให้มีระบบนิเวศที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวก เอื้อต่อการดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานและอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย
ที่มา: โมเดิร์นเทียร์