นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานปี 65 ทำรายได้จากการขายและการให้บริการรวมทั้งสิ้น 110,657 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4,795 ล้านบาท ชะลอตัวจากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ 118,275 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 15,847 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยถุงมือยางลดลงหลังจากสถานการณ์โรค COVID-19 ทั่วโลกทยอยคลี่คลาย และซัพพลายที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก อย่างไรก็ดีปริมาณการขายยางธรรมชาติยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 25,325 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 988 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ 28,406 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,614 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยมาจากธุรกิจถุงมือยางที่มีผลประกอบการลดลง จากราคาขายเฉลี่ยถุงมือยางที่อ่อนตัวลงระหว่างที่ตลาดกำลังปรับตัวเข้าหาจุดสมดุล
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรารวม 2.00 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลการดำเนินงาน
ครึ่งปีแรก 2565 ไปแล้วในอัตรา 1.00 บาทต่อหุ้น คงเหลือที่จะต้องจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังอีก 1.00 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 19 เมษายนนี้ และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 หลังจากที่ได้รับอนุมัติในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566
กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร STA กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ วางแผนขยายกำลังการผลิตรวมอย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตรวมเป็น 4.24 ล้านตันต่อปีภายในปี 2567 (ปีหน้า) จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 3.18 ล้านตันต่อปี เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรมยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก และวางเป้าหมายปริมาณการขายปี 2566 ที่ 2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 33% จากปีที่ผ่านมา
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย