ด้านความคืบหน้าในการพัฒนาท่าเทียบเรือชุดดี (Terminal D) ณ ท่าเรือแหลมฉบังที่กำลังเดินหน้าในปี 2566 นี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับตู้สินค้าให้กับบริษัทได้เพิ่มขึ้นอีก 800,000 TEU โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ได้เสริมทัพส่วนปฏิบัติงานหน้าท่าด้วยปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าควบคุมจากระยะไกล (remote -controlled ship to shore cranes) จำนวนสี่คัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยาง (remote-controlled yard cranes) จำนวนแปดคัน ซึ่งทั้งหมดเป็นระบบควบคุมระยะไกลและใช้ระบบไฟฟ้า และช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับมอบรถหัวลากอัตโนมัติไร้คนขับ (Autonomous Truck: AT) เพิ่มอีกจำนวนเก้าคัน เพิ่มจากรถหัวลากเดิมที่มี รวมทั้งสิ้นสิบห้าคัน นอกจากนี้ ยังมีรถบรรทุกขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอีกเก้าคันที่บริษัทรับมอบมาในช่วงปีที่ผ่านมา ความก้าวหน้านี้ไม่เพียงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานหน้าท่าเทียบเรือชุดดีเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนใบบริเวณท่าเทียบเรืออีกด้วย
การพัฒนาท่าเทียบเรือชุดดีของฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ในด้านเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนสู่การเป็น "ท่าเทียบเรือสีเขียว" ได้รับการยอมรับในระดับสากล ในเดือนตุลาคม 2565 บริษัทได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัล "ท่าเรือสีเขียว ประจำปี 2565" โดย APEC Port Services Network (APSN) ซึ่งเป็นองค์กรระดับนานาชาติที่ก่อตั้งขึ้นภายใต้การสนับสนุนของเอเปคที่เป็นไปเพื่อการส่งเสริมพัฒนาท่าเรือเพื่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าบนเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการท่าเรือที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นผู้ขับเคลื่อนที่สำคัญในกลุ่มบริษัทฮัทชิสันกับเป้าหมายด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ นอกจากนี้ ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ยังให้การช่วยเหลือนักเรียนที่โรงเรียนบ้านคลองปลิง จังหวัดชลบุรี เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวในบริเวณโรงเรียนด้วยการปลูกต้นไม้ และปลูกผักสวนครัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "โรงเรียนสีเขียว ประจำปี 2565" และยังได้ร่วมมือกับคณะพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ในโครงการคืนชีวิตให้ขยะที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากขยะและวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นสิ่งของชิ้นใหม่
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 20 ปี การดำเนินกิจการในท่าเรือแหลมฉบังเมื่อช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมาและได้ฉลองความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับยอดสะสมตู้สินค้าผ่านท่าเทียบเรือชุดดีกว่า 35 ล้าน TEU ในเดือนพฤษภาคม 2565 ทั้งนี้นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2545 ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ได้ขยายกิจการมาอย่างต่อเนื่องจากที่มีพนักงานประจำ 150 อัตรา จนปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประจำรวมถึง 1,400 อัตรา
"แม้ทั่วโลกจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย เรายังสามารถฝ่าฟันและทำได้ดีทั้งในช่วงครึ่งปีแรกตลอดจนถึงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ยังได้มีการเสนอบริการที่หลากหลายเพื่อครอบคลุมการให้บริการแก่ลูกค้าสายเดินเรือของเราทั้งในยุโรป อเมริกาเหนือ อินเดีย ออสเตรเลีย รวมถึงการขนส่งสินค้าภายในเอเชีย ส่วนการลงทุนในท่าเทียบเรือชุดดีจะยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทอย่างยั่งยืน" มร. สตีเฟ้นท์ อาร์ชเวิรท กรรมการผู้จัดการ ฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทย และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์