สมาคมนิสิตเก่าวิศวะ จุฬาฯ จัดดินเนอร์ทอล์ก แนะไทยเร่งต่อยอดจุดแข็ง-เปิดเกมรุกอุตฯ แห่งอนาคต

พฤหัส ๐๙ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๐:๕๖
บิ๊กภาครัฐและเอกชนไทย ศิษย์เก่าวิศวะ จุฬาฯ ชี้แนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤตโควิด-19 แนะต่อยอดจุดแข็งภาคบริการ พร้อมกระโดดเข้าสู่โลกอุตสาหกรรมแห่งอนาคต กระทุ้งเอกชนรายใหญ่ช่วยอุ้ม SMEs เดินหน้าต่อไปพร้อมกัน
สมาคมนิสิตเก่าวิศวะ จุฬาฯ จัดดินเนอร์ทอล์ก แนะไทยเร่งต่อยอดจุดแข็ง-เปิดเกมรุกอุตฯ แห่งอนาคต

สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงาน INTANIA DINNER TALK "มุมมองใหม่ ฝ่าเศรษฐกิจไทย ปี 2022" เปิดเวทีให้ผู้บริหารองค์กรชั้นนำของเมืองไทยแสดงวิสัยทัศน์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก พร้อมมองอนาคตภาคพลังงาน อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และศักยภาพตลาดหุ้นไทย

ภายในงาน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานในพิธีและองค์ปาฐก กล่าวว่า รัฐบาลได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบ รวมถึงโครงข่ายดิจิทัล สร้างระบบ Ecosystem  ที่ส่งเสริมการทำธุรกิจของคนไทย พร้อมดึงดูดคนต่างชาติให้ย้ายถิ่นฐานมาประเทศไทยและเข้ามาลงทุน  ซึ่งเชื่อว่า ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอีกมาก โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะเสร็จสมบูรณ์และเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างยิ่ง ทั้งนี้ มองว่าทุกวิกฤตมีโอกาสอยู่เสมอ และตอนนี้หลายคนได้คว้าโอกาสได้แล้ว มีการวางรากฐานธุรกิจเพื่อเดินหน้าต่อ แต่ก็ยังเหลือกลุ่มคนที่เปราะบางที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตครั้งนี้ ดังนั้นจึงต้องการให้ผู้ที่มีศักยภาพดีดูแลช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ด้วย เพราะไม่ต้องการให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ขณะเดียวกัน ในการเสวนาหัวข้อ "มุมมองใหม่ ฝ่าเศรษฐกิจไทย ปี 2022" นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสดอม แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส จำกัด แนะนำว่า หากต้องการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ จะต้องต่อยอดและพัฒนาสิ่งที่ถนัดอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว การเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์แห่งอนาคต ธุรกิจอาหารไทย การส่งออกผลไม้ไทย เป็นต้น ขณะเดียวกันก็มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีศักยภาพในสายตาของนักลงทุน เป็นตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง และไทยมีโอกาสเป็นศูนย์กลางการระดมทุนได้ในอนาคต  โดยปีนี้ ไทยครองแชมป์การระดมทุนจาก IPO สูงสุดในตลาดอาเซียนติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีมูลค่าการระดมทุนสูงถึง 4,200 ล้านบาท

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การพัฒนาประเทศไทยหลังวิกฤต ภาครัฐมีหน้าที่ดูแลคนฐานราก ส่วนภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญด้านการลงทุน ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องลงทุนใหม่ (Reinvest) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่ง จะต้องลงทุนบนพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว พร้อมสร้างนวัตกรรมเองหรือร่วมมือกับผู้อื่น โดยปตท.จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรม New S-Curve ของไทยประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเน้นลงทุนด้านพลังงานสะอาด และธุรกิจใหม่นอกเหนือจากพลังงาน เช่น ผลิตภัณฑ์ยา, บริการทางการแพทย์, ธุรกิจที่มีมูลค่าสูง, ธุรกิจไลฟ์สไตล์และ Mobility โลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนเทคโนโลยีหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ (AI Robotics) โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2573 จะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ประมาณ 30% ของรายได้ทั้งหมด นอกจากการขยายธุรกิจขององค์กรแล้ว ก็ยังสร้างโมเดลและแพลตฟอร์มธุรกิจที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs และคนในท้องถิ่นให้เติบโตไปพร้อมกัน เช่น ปั๊มน้ำมันที่เป็นจุดรวมของชุมชน และธุรกิจร้านอเมซอน ซึ่งทั้งสองธุรกิจมี SMEs เป็นเจ้าของอยู่ประมาณ 80-90% ของสาขาทั้งหมด

นายสมโภชน์ อาหุนัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากต้องการให้ประเทศไทยกลับมาแข็งแกร่ง ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญในปัจจุบัน อาจต้องมีการปรับแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่างๆ หรืออาจเริ่มจากทำโครงการแบบ Sandbox ที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่พื้นที่อื่นต่อไป นอกจากนี้ ประเทศไทยต้องเร่งเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมโลกใหม่ เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งปตท.จับมือกับพันธมิตรต่างชาติพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล ส่วนบมจ.พลังงานบริสุทธิ์   มุ่งเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ที่เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในอนาคตทั้งตลาดในประเทศและตลาดระดับภูมิภาค

ดร.ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประเทศไทยต้องมองหาโอกาสธุรกิจใหม่ๆ ที่เกิดจากพฤติกรรมของคนและกติกาโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหลังวิกฤตโควิด-19 ทำให้สินค้าที่เคยขายในรูปแบบเดิมอาจขายไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นหากปรับตัวได้ก่อน ก็จะคว้าโอกาสได้ นอกจากนี้ ควรพัฒนาโมเดลธุรกิจแบบ Inclusive ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถเติบโตไปพร้อมกับรายใหญ่ได้ด้วย

กิจกรรม INTANIA DINNER TALK ปีนี้มีผู้ร่วมงานประมาณ 300 คน ซึ่งนอกจากมีการระดมความคิดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปแล้ว งานครั้งนี้ยังเป็นการระดมทุนให้สมาคมฯ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อใช้สนับสนุนการดำเนินงานด้านวิชาการ และกิจกรรมเพื่อสังคมด้วย

ที่มา: เอเชียไลฟ์มีเดีย (ประเทศไทย)

สมาคมนิสิตเก่าวิศวะ จุฬาฯ จัดดินเนอร์ทอล์ก แนะไทยเร่งต่อยอดจุดแข็ง-เปิดเกมรุกอุตฯ แห่งอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ