ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญและเติบโตสำหรับซิลเวอร์เลค แอ็คซิส ซึ่งรายงานล่าสุดจาก McKinsey ประเทศไทยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยศักยภาพที่พร้อมรับกับอนาคตและความสามารถด้านการแข่งขันในฐานะผู้นำธนาคารระดับภูมิภาค อันประกอบไปด้วยการสร้างโมเดลธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ สร้างเสริมประสบการณ์การใช้งานที่ทันสมัยและศักยภาพที่พร้อมรองรับการเติบโต ทั้งนี้จากรายงานมูลค่าตลาดรวมของธนาคารในภูมิภาคอาเซียน พบว่าประเทศไทยมีมูลค่าตลาดลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มธนาคารของไทยถูกแทนที่ด้วยผู้เล่นระดับภูมิภาคด้วยสถานะการเป็นธนาคารที่มีมูลค่าตลาดสูง สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธนาคารไทยที่จะเร่งพัฒนาบริการและสร้างมูลค่าธุรกิจเพิ่มเติมด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหาประสบการณ์ด้านดิจิทัลที่เหนือระดับ ซึ่งขณะนี้ธนาคารของไทยก็กำลังเร่งเดินหน้านำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ล้ำมาใช้เพื่อปรับปรุงรูปแบบธุรกิจ ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังทำให้ธนาคารสามารถเข้าถึงกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ที่มีสัดส่วนกว่า 99.6% ของกิจการในประเทศ และคิดเป็น 70% ของแรงงาน ในขณะที่มีเพียง 30% เท่านั้นที่เข้าถึงสินเชื่อ ดังนั้นธนาคารจึงต้องคิดทบทวนโมเดลการดำเนินกิจการและเสนอบริการเพื่อรองรับกลุ่มที่ขาดโอกาส ด้วยโมเดลบริการอันทันสมัยและศักยภาพที่ใช้ระบบดิจิทัลเป็นเครื่องชี้นำ ทำให้ธนาคารของไทยพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในอนาคต อีกทั้งยังสามารถไขว่คว้าโอกาสด้านสินเชื่อผู้บริโภคอีกด้วย
แต่งตั้ง อูรชา พงษ์วัฒนา ก้าวขึ้นรับตำแหน่งผู้นำ
ทั้งนี้นายอูรชาได้ร่วมงานกับซิลเวอร์เลค แอ็คซิส มาตั้งแต่ปี 2561 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริการโครงสร้าง รับหน้าที่ดูแลการเติบโตและสามารทำได้อย่างมั่นคงในช่วงระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง สำหรับตำแหน่งใหม่ในฐานะผู้จัดการประจำประเทศจะครอบคลุมการดูแลกิจการทั้งหมดในไทยและศรีลังกา พร้อมมองหาโอกาสในการขับเคลื่อนการเติบโตและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งให้กับทั้งสองประเทศจากประสบการณ์กว่า 25 ปีของอูรชาที่มีทั้งความเชี่ยวชาญเพิเศษในธนาคารรายย่อยและวางแผนกลยุทธ์ บวกกับเป็นผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้านธุรกิจสินเชื่อและโซลูชันดิจิทัล
"อูรชาจะมีส่วนช่วยให้ซิลเวอร์เลค แอ็คซิสบรรลุเป้าหมายและทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดคิดในตลาดที่มีการเติบโตลำดับสำคัญของเรา และวางเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนพนักงานกว่า 40% ภายในปี 2566" นายแอนดริว ตัน เทียก เวย กรรมการผู้จัดการของกลุ่มบริษัท ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส กล่าว "เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับอูรชาในตำแหน่งใหม่และหวังว่าจะประสบความสำเร็จกับหน้าที่ใหม่ครั้งนี้อย่างดีที่สุด"
จับมือเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์กับ EXIM BANK
ล่าสุดซิลเวอร์เลค แอ็คซิส ได้ลงนามในสัญญาพัฒนาระบบคอร์แบงก์กิ้งกับ EXIM BANK ทำให้ทั้ง ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส และ EXIM BANK กลายเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์โดย ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส จะให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาระบบงานหลักของ EXIM BANK เพื่อให้ธนาคารใช้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ธุรกิจสู่ธนาคารดิจิทัล ด้วยโซลูชันดิจิทัลที่ก้าวล้ำของ ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส ยังทำให้ธนาคารสามารถเดินหน้าสู่เทคโนโลยีระบบคลาวด์ได้รวดเร็วอีกด้วย
การบูรณาการสู่ระบบงานธุรกิจหลักของ EXIM BANK จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ปรับปรุงประสิทธิภาพ ยกระดับธุรกิจ และทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ การทำงานทั้งหมดจะได้รับการปรับปรุงผ่านแพลตฟอร์มหลายช่องทางที่มีความปลอดภัยไปพร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว
"เรามองหาโซลูชันใหม่ๆ ที่ช่วยให้การเปลี่ยนผ่านสู่ธนาคารดิจิทัลเป็นเรื่องที่ทำได้จริงทั้งในเชิงค่าใช้จ่าย ความคุ้มค่าทางธุรกิจ และการรองรับระบบขนาดใหญ่ เราให้บริการแก่ลูกค้าทุกกลุ่มไม่ว่าจะมีกิจการขนาดใดหรือดำเนินธุรกิจรูปแบบใดก็ตาม ทั้งนี้ EXIM BANK ถือเป็นพันธมิตรหลักรายล่าสุดของเราที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในฐานลูกค้าธนาคาร ซึ่งเราให้บริการมากกว่า 10 ล้านคน ครอบคลุม 1,800 สาขา และมีลูกค้ากว่า 50,000 คนที่ใช้เฉพาะบริการด้านดิจิทัล" นายอูรชา พงษ์วัฒนา ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและศรีลังกา ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส กล่าว "ด้วยประสบการณ์ด้านการบริหารโครงการและเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับ เรายังได้ให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจเอสเอ็มอี ผู้ให้บริการโซลูชันชำระเงิน ตลอดจนกลุ่มธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ซึ้งถือเป็นผลงานความสำเร็จอันเป็นที่ประจักษ์ และเราจะยังคงเดินหน้าในเรื่องดังกล่าวต่อไป"
ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส เป็นผู้นำในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้บริการแพลตฟอร์มระบบธนาคารหลักแก่ธนาคารกว่า 40% ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 20 อันดับแรกในภูมิภาคนี้ และมีประสบการณ์ด้านแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์หลักระดับองค์กรขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จกว่า 30 ปี อีกทั้งยังถือเป็นแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ของระบบงานธุรกิจหลักที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน 3 ใน 5 แห่งเลือกใช้ โดยปี 2565 ถือเป็นปีที่ ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส มีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งที่สุด และมีรายได้รวมกว่า 736.5 ล้านริงกิต นอกจากนี้บริษัทยังมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5% ในช่วง 6 เดือนก่อนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 คิดเป็น 99.7 ล้านริงกิต เพิ่มขึ้นจาก 94.8 ล้านริงกิตเมื่อปีก่อน
ที่มา: พรีเชียส คอมมูนิเคชั่น