แอดเทค ฮับ ("ADD") ส่งซิก เดินเกมรุกเข้าลงทุนธุรกิจใหม่ 2-3 ดีล จ่อเปิดตัวให้บริการโซลูชั่นใหม่ภายในไตรมาส 1 มั่นใจปั้นรายได้ปี 66 กลับมาแตะ 500 ล้านบาท

พฤหัส ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๓ ๑๖:๑๕
บมจ.แอดเทค ฮับ ("ADD") เปิดเกมรุกปี 2566 ประกาศปั้นรายได้ทั้งปีกลับมาแตะ 500 ล้านบาท ผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก Organic และ Inorganic ขับเคลื่อนการเติบโตของผลการดำเนินงานอย่างมั่นคง พร้อมส่งซิกแผนเข้าลงทุนธุรกิจใหม่ 2-3 ดีล หวังสร้างมูลค่าเพิ่มและกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ - เตรียมเปิดตัวให้บริการโซลูชั่นใหม่ภายในไตรมาส 1 นี้ ส่วนทางด้านผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯมีรายได้รวมจากการให้บริการ 331.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 45.01 ล้านบาท

นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ("ADD") ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2566 ว่า ภาพรวมการดำเนินงานมีแนวโน้มกลับมาเติบโต โดยประเมินรายได้รวมมีโอกาสปรับตัวกลับมาแตะระดับ 500 ล้านบาท ตามการส่งสัญญาณเชิงบวกของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อีกทั้งกรณีการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC จะช่วยให้รายได้และกำไรของอุตสาหกรรมดีขึ้น เนื่องจากการแข่งขันของผู้เล่นในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะเหลือเพียงไม่กี่ราย

ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ บมจ.แอดเทค ฮับ ("ADD") เตรียมแผนขับเคลื่อนทางธุรกิจ เพื่อขยายและสร้างโอกาสการต่อยอดให้กับบริษัทฯสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้เติบโตอย่างยั่งยืนผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1. กลยุทธ์ด้าน Organic คือ การสร้างโอกาสการเติบโตจากการดำเนินงานภายใต้ธุรกิจหลัก (Core Business) โดยการขยายโปรเจคคอนเทนต์และโซลูชั่นใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มฐานรายได้จากโปรเจคที่ทำกับโอเปอเรเตอร์ต่างๆ ให้มั่นคงมากขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 1 นี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวการให้บริการโซลูชั่นใหม่เพื่อรองรับการให้บริการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น หลังจากที่มีการชะลอโครงการในช่วงปีที่ผ่านมาท่ามกลางความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรม

และ 2. กลยุทธ์ด้าน Inorganic คือ การเติบโตจากภายนอก โดยบริษัทฯมองหาโอกาสการลงทุน ในกลุ่มบริษัทใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อต่อยอดธุรกิจและกระจายความเสี่ยงลดการพึ่งพิงรายได้จากโอเปอเรเตอร์เพียงอย่างเดียว รวมถึงยังสามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการรับงานโปรเจคใหม่ๆของบริษัทฯ นอกเหนือจากการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์และโซลูชั่นที่เป็นความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอยู่ 2-3 ดีล ทั้งนี้ หากสามารถปิดดีลดังกล่าวได้แล้วเสร็จตามแผนการลงทุน ก็จะส่งผลให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานทางธุรกิจของ "ADD" ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

"หลังจากที่เข้าไปลงทุนใน บริษัท เซเว่น คอนเนค แอดไวซอรี่ จำกัด ("7C") และบริษัท ไฮเว็บ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด (HWTHAI) ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของ "ADD" โดยในปี 2566 นี้ บริษัทฯจะรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทดังกล่าวเข้ามาเต็มปี ซึ่งจากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯมีแผนศึกษาเพื่อเข้าลงทุนในบริษัทอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯเติบโตอย่างมั่นคง และลดการพึ่งพารายได้จากกลุ่มโอเปอเรเตอร์ ในอนาคตได้"

ด้านผลการดำเนินงานในปี 2565 ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.แอดเทค ฮับ ("ADD") กล่าวว่า บริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการรวม 331.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 45.01 ล้านบาท จากรายได้ 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.การให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ มีรายได้ 274.80 ล้านบาท หรือลดลง 37.88% เนื่องจากผู้ใช้บริการมีการใช้จ่ายเพื่อใช้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ลดลง แม้ว่าจำนวนผู้ใช้บริการดิจิทัลคอนเทนต์โดยเฉลี่ยมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยในปี 2565 จำนวนผู้ใช้บริการดิจิทัลคอนเทนต์เฉลี่ย 6.07 ล้านรายต่อเดือน เพิ่มจากจำนวนเฉลี่ย 4.75 ล้านรายต่อเดือน คิดเป็นเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.32 ล้านรายต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 27.76% โดยสาเหตุหลักที่ผู้ใช้บริการมีการใช้จ่ายที่ลดลง เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ประสบกับภาวะเงินเฟ้อ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ในขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 74.35 ล้านบาท ลดลง 38.22% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 27.06% ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 27.20%

2.การให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีรายได้ 55.38 ล้านบาท ลดลง 23.21% เนื่องจากการลดลงของจำนวนยอดการใช้จ่ายของผู้ใช้บริการผ่านระบบที่บริษัทฯ มีการให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.90 ล้านบาท ลดลง 52.06% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 35.93% ลดลงจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 57.57% จากต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมการให้บริการที่จะมีเพิ่มขึ้นในอนาคตทั้งในส่วนของบริษัทฯ และลูกค้ากลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯที่จะเพิ่มการให้บริการในโครงการใหม่ อย่างต่อเนื่องทุกปี อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์การควบรวมของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ยังไม่มีความแน่นอนในช่วงเวลาดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละรายชะลอการเปิดใช้งานระบบที่บริษัทฯ มีการพัฒนาเพิ่มเติม โดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาและเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานบนเครือข่าย และ 3.การให้บริการโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ตสำหรับสินค้าและบริการ มีรายได้ 1.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.12% เนื่องจากลูกค้ากลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีการใช้จ่ายด้านสื่อโฆษณาเพิ่มขึ้น

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ