บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN โชว์ผลงานปี 65 สุดแกร่ง ทำกำไรสุทธิ 325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% หลังมียอดโอนที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองให้แก่ลูกค้าเติบโต 162% ด้านบอร์ดฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 65 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโต ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในนิคมฯ ปีนี้เพิ่มอีก 20%
นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานในปี 2565 (มกราคม-ธันวาคม) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันรายได้รวม 1,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% และมีกำไรสุทธิ 325 ล้านบาท เติบโต 125% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวมาจากปัจจัยมียอดโอนที่ดินนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองให้แก่ลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 210 ไร่ ส่งผลให้รายได้จากการขายดินปรับตัวสูงขึ้นถึง 162% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Recurring Income ที่ประกอบด้วย รายได้จากการให้บริการเช่าโรงงานและคลังสินค้าในนิคมอุตสาหกรรมขยายตัว 4.4% และ ค่าบริการพื้นที่ส่วนกลางและระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการเติบโต 5% ตามกิจกรรมการผลิตของลูกค้าทั้งรายเดิมและรายใหม่ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น
ความสำเร็จดังกล่าว สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ที่มุ่งตอกย้ำจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งของโครงการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC พร้อมการให้บริการที่เกี่ยวข้องแบบ One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างประเทศที่สนใจเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นฐานส่งออกและบริหารความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2565 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ภายหลังจากได้รับการเห็นชอบของมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2566 นี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PIN กล่าวว่า เป้าหมายการดำเนินงานปี 2566 เน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อรับกับโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นนักลงทุนจากประเทศจีนในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์อีวี ทั้งชิ้นส่วน อะไหล่ และแบตเตอรี่ รวมถึงลูกค้ากลุ่มธุรกิจ Data Center ซึ่ง PIN จะสื่อสารถึงจุดเด่นของโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ประเทศจีน โดยตั้งเป้าการขายที่ดินปีนี้รวม 420 ไร่ หรือเพิ่มขึ้น 20% เช่นเดียวกับการเพิ่มรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income ทั้งกลุ่มโรงงาน คลังสินค้าให้เช่า รวมถึงให้บริการสาธารณูปโภคจากการจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ลูกค้าในโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดให้บริการโครงการโลจิสติกส์พาร์ค เฟสแรกได้ภายในปีนี้ โดยมีพื้นที่อาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าประมาณ 50,000 ตารางเมตร ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานในปีนี้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย