นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีกำไรสุทธิ 1.1 ล้านบาท เติบโต 101% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,366 ล้านบาท นับว่าเป็นปีของ VRANDA ที่ผลการดำเนินงานเริ่มพุ่งทะยานอย่างมีนัยสำคัญ โดยมาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 ที่มีกำไรสุทธิโดดเด่น 19 ล้านบาท เติบโต 841% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2565 ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 405 ล้านบาท เติบโต 23 % เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน
ความสำเร็จผลดำเนินงานในครั้งนี้ มาจากการเติบโตในไตรมาส 4/2565 โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจโรงแรม 324 ล้านบาท ที่มีอัตราเติบโต 27 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นการกลับมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในเครือวีรันดา 65% และอัตราค่าห้องเฉลี่ย 4,555 บาท เติบโต 8% และ 12% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
"ปี 2565 นับว่าเป็นปีแห่งความท้าทายกับการปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับตลาดท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกและนักท่องเที่ยวคนไทย ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยบริษัทฯ มองเห็นโอกาสทางการตลาดและปรับกลยุทธ์การตลาดอย่างรวดเร็วให้เท่าทันกับสถานการณ์ และด้วยศักยภาพเครือโรงแรมและรีสอร์ทที่มีอยู่กันทั้งหมด 6 แห่งที่มีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ความหลากหลายของกลุ่มลูกค้าแต่ชาติซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละโลเคชั่น ยังทำให้เราสามารถกระจายความเสี่ยง ไม่พึ่งพาลูกค้าชาติใดชาติหนึ่งมากเกินไป" นายวีรวัฒน์ กล่าว
ด้านการพัฒนาโรงแรมใหม่ภายใต้แบรนด์โรงแรม 'Veranda Resort Phuket, Autograph Collection หรือ วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโตกราฟ คอลเลคชั่น' บนทำเลศักยภาพใกล้ ณ แหลมพันวา จ.ภูเก็ต จำนวน 161 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วเมื่อเดือน พ.ย.65 และคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 67 เพื่อรับกับจังหวะกับสถานการณ์ท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ แผนธุรกิจปี 2566-2567 วีรันดา รีสอร์ท เตรียมขยายลงทุน โดยมุ่งขยายพอร์ตธุรกิจอย่างครบครัน ทั้ง โรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจอสังหาฯ ตลอดจนการสร้างแบรนด์ธุรกิจร้านอาหาร เพื่อตอกย้ำผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์ครอบคลุมรับกับภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างโดดเด่น เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นเดสติเนชั่นที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประกอบกับการที่จีนเปิดประเทศยิ่งเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ การมีโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ สนับสนุนให้คนไทยร่วมเที่ยวไทยไปพร้อมกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วโลก มั่นใจว่าปี 2566-2567 จะเป็นจังหวะแห่งการเติบโตก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย