ทิสโก้ชี้ Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 6% หยุดเงินเฟ้อ แนะหาจังหวะซื้อตราสารหนี้ระยะยาวสหรัฐฯ ล็อกผลตอบแทนสูง

อังคาร ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๓ ๑๗:๒๖
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ชี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นถึง 6% หากเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูงที่ 4% คาดหนุนอัตราผลตอบตราสารหนี้สหรัฐฯ (Bond yield) พุ่งไปถึง 4.1% แนะใช้จังหวะนี้ลงทุนตราสารหนี้ระยะยาวล็อกผลตอบแทนในระดับสูง

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr. Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ เริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้น ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิตสูงกว่าคาด ตัวเลขการว่างงานต่ำสุดในรอบ 50 ปี ยอดขายบ้านและรถก็มีแนวโน้มฟื้นตัว สะท้อนว่าความพยามของ Fed ในการควบคุมเงินเฟ้อด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงมาตลอดช่วงปีที่ผ่านมานั้นอาจยังไม่เพียงพอ และ Fed อาจจำเป็นต้องปรับทิศทางนโยบายการเงินให้เข้มงวดเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งคณะกรรมการ Fed หลายท่านก็เริ่มสั่งสัญญาณไปในทิศทางดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการคำนวณโดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ โดยอิงตาม Taylor rule ชี้ว่า หากเงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4% ไปตลอดทั้งปีนี้ Fed อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 6% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้สำเร็จ และหาก Fed ขึ้นดอกเบี้ยไปถึง 6% ก็จะมีโอกาสที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ (Bond yield) จะเพิ่มขึ้นไปถึง 4.1% ส่งผลกดดันต่อมูลค่าหุ้น (Valuation) ให้ลดลงราว 5% จากระดับปัจจุบัน

นอกจากนี้ ปัจจุบันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพง โดยดัชนี S&P500 เทรดอยู่ที่ระดับ P/E ราว 18 เท่า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ยกเว้นช่วงฟองสบู่ดอทคอมในปี 2543 และช่วงโควิดในปี 2563 ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นที่จำกัดและมีความเสี่ยงขาลงมากกว่า จึงแนะนำให้นักลงทุนใช้โอกาสที่ Bond yield กลับมาปรับขึ้น หาจังหวะในการเข้าลงทุนในตราหนี้สหรัฐฯ ระยะยาว เพื่อล๊อกผลตอบแทนในช่วงที่ Bond yield เข้าใกล้ระดับ 4%

"ตามประมาณการเศรษฐกิจล่าสุดในเดือนธันวาคม Fed คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะลดลงไปที่ระดับ 3.5% ปลายปีนี้ และ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยไปที่ระดับ 5.25% และคงไว้ไปตลอดทั้งปี แต่หากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงตามที่คาด Fed ก็อาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสูงกว่าที่เคยส่งสัญญาณ โดยหากเงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4% ไปตลอดทั้งปีนี้ จากการคำนวณของเราโดยอิงตาม Taylor rule ชี้ว่า Fed อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 6% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้สำเร็จ ซึ่งเราประเมินว่าหาก Fed ขึ้นดอกเบี้ยไปถึง 6% Bond yield สหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นไปถึง 4.1% ซึ่งจะส่งผลกดดันต่อ Valuation ของตลาดหุ้นให้ลดลงราว 5% จากระดับปัจจุบัน" นายคมศรกล่าว

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version