นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยผลประกอบการประจำปี 2565 เป็นปีที่อิชิตันกลับมาท็อปฟอร์ม โดยมีกำไรสุทธิ 641.6 ล้านบาท หรือโตขึ้น 17.3% จากปีก่อนที่ทำได้ 546.8 ล้านบาท รายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 6,340.4 ล้านบาท โต 21.3% และที่สำคัญผลประกอบการไตรมาส 4/2565 ทำสถิติใหม่ เพราะสามารถทำกำไรนิวไฮ 3 ไตรมาสซ้อน ไตรมาส 4 กำไรที่ 192.9 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาส 2-3 ซึ่งเป็นไฮซีซั่น
อิชิตันมีผลประกอบการที่ดีจากปัจจัยหนุนเพียบ เริ่มจากกำลังซื้อฟื้นตัวทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศอย่าง CLMV จากสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย ผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติทั้งการทำงาน การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และการท่องเที่ยว สอดคล้องในแนวทางเดียวกับการเติบโตภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มนอน-แอลกอฮอล์ โดยชาพร้อมดื่มโตสูงสุดเหนือตลาดถึง 22.88% ในขณะที่ตลาดเครื่องดื่มโดยรวมเติบโตเฉลี่ย 6.2%
นอกจากนี้ การเติบโตของช่องทางการจำหน่าย Traditional Trade ของอิชิตันสูงขึ้น 35.67% โดยเฉพาะความนิยมอย่างสูงสำหรับสินค้าไซส์เล็กราคาประหยัด อาทิ อิชิตัน เย็นเย็น และไบเล่ เป็นแรงหนุนให้สินค้ากระจายตัวเข้าถึงร้านค้ามากขึ้น อัตรากำลังผลิตของโรงงานอิชิตัน กรีน แฟคทอรี่ จึงดีขึ้นจากการผลิตต่อเนื่อง ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเฉลี่ยถึงเดือนละ 75 ล้านขวด เกิด Economy of Scale ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อขวดต่ำลง หนุนให้ความสามารถการทำกำไรได้ดีขึ้น
เมื่อบวกกับกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น "Tansansu (ตันซันซู)" โคเรียนโซดา เจาะกลุ่ม Gen Z ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบทดลองสิ่งใหม่ และหลงใหลในวัฒนธรรม K-POP ที่เพิ่งเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรกด้วยศิลปินเกาหลีระดับอินเตอร์ "มาร์ค ต้วน (Mark Tuan) GOT7" และ "อิชิตัน 0 แคลอรี พลัส คาเทชิน" ชาคุณภาพเพื่อสุขภาพ สูตรน้ำตาล 0% และ 0 แคลอรี พลัส คาเทชิน (catechin) สนับสนุนเทรนด์การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี มีส่วนทำให้ไตรมาส 4 อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) แตะ 21% สูงกว่าไตรมาสระดับปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 17.5% เป็นแนวโน้มที่ดีแสดงถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ"
ด้านตลาดต่างประเทศกลับมาฟื้นตัว ตัวเลขการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ส่งสัญญาณบวก จากที่เคยติดลบช่วงโควิด-19 มาจากการทำแคมเปญการตลาดต่อเนื่อง และเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ฟากธุรกิจ ICHITAN OEM SERVICE ปิดดีลจากลูกค้าใหม่รายใหญ่ 2 เจ้า คาดเริ่มผลิตภายในไตรมาส 1/2566 นี้ และยังอยู่ในขั้นตอนเจรจากับบริษัทอีกหลายแห่ง ส่วน อิชิตัน อินโดนีเซีย ผลประกอบการดีเกินคาดจากความสำเร็จในการพัฒนาสินค้าตรงใจผู้บริโภคอินโดนีเซีย จนสามารถรับรู้กำไรกลับมาไทย 82.2 ล้านบาท จากกำไรทั้งหมด 164.4 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมด้วยศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีสภาพคล่องที่ดี และไม่มีหนี้ระยะยาว ทำให้อิชิตัน กรุ๊ปพร้อมที่จะขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาทต่อหุ้น (งวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565) โดยจ่ายจากกำไรสุทธิและกำไรสะสม (ส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ผู้ได้รับเงินปันผลไม่ได้รับ เครดิตภาษี) ให้แก่ผู้ถือหุ้นและได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ทั้งนี้ต้องรอพิจารณาจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ในวันที่ 27 เมษายน 2566
ที่มา: ไออาร์ พลัส