กรมวิชาการเกษตรขานรับนโยบาย "มนัญญา" ขับเคลื่อนแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะผลิตถั่วเขียว มุ่งการเกษตรทำน้อยได้มาก

พุธ ๐๑ มีนาคม ๒๐๒๓ ๑๐:๒๙
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กรมวิชาการเกษตรเร่งขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีจากผลงานวิจัยกรมวิชาการเกษตร และเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ โดยขับเคลื่อนแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะการผลิตถั่วเขียวมุ่งการเกษตรแบบทำน้อยได้มาก กรมวิชาการเกษตรจึงได้กำหนดจัดงานวันถ่ายทอด "เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะการผลิตถั่วเขียว" ในวันที่ 2 มีนาคม 2566 ณ ตำบลกองทูล อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์

ซึ่งการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาสู่การเกษตรอัจฉริยะแห่งอนาคต มีเป้าหมายสำคัญในการใช้ทรัพยากรในการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน ลดการสูญเสีย ลดการใช้แรงงาน โดยการนำเครื่องจักรกลการเกษตร และเกษตรดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการผลิต เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคการเกษตรไทยในตลาดโลก

ดร.ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ถั่วเขียว เป็นหนึ่งในพืชนโยบายที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งเสริมให้ปลูกในภาวะวิกฤตภัยแล้ง เนื่องจากเป็นพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อย สามารถนำไปใช้ในระบบปลูกพืชได้ดี จึงส่งเสริมให้ปลูกทดแทนข้าวนาปรัง หรือปลูกก่อนข้าวโพดในพื้นที่ประสบภัยแล้ง เพราะสามารถใช้ความชื้นที่เหลืออยู่ในดินภายหลังเก็บเกี่ยวพืชหลักได้โดยไม่กระทบต่อผลผลิตมากนัก ปลูกก่อนหรือหลังการทำนา รวมทั้งยังช่วยตัดวงจรการระบาดของแมลงศัตรูพืชและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน

ในปี 2564/65 มีพื้นที่ปลูกถั่วเขียว 743,180 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 146 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตรวม 108,474 ตัน แต่มีความต้องการใช้ถั่วเขียว 128,000 ตัน เนื่องจากมีการขยายตัวของอุตสาหกรรมแปรรูปวุ้นเส้น แปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ถั่วงอก แป้งถั่วเขียว และเป็นเมล็ดพันธุ์ โดยปี 2564 ประเทศไทยส่งออกวุ้นเส้นจากถั่วเขียว 31,811 ตัน มูลค่ารวม 1,151 ล้านบาท

กรมวิชาการเกษตร ได้จัดทำโครงการจัดทำแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะ ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร บริษัท ตะโกรายไฮดรอลิค จำกัด และหน่วยงานเครือข่าย โดยร่วมดำเนินการจัดทำแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะภายในพื้นที่พื้นที่ 20 ไร่ ในแปลงของ นายไพโรจน์ มณีธรรม ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ถั่วเขียวบ้านวังชงโค หมู่ที่ 1 ตำบลกองทูล อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกถั่วเขียวที่สำคัญของประเทศ โดยจังหวัดเพชรบูรณ์มีพื้นที่ปลูกถั่วเขียวประมาณ 340,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 45.7 ของพื้นที่ปลูกทั้งประเทศ

สำหรับเทคโนโลยีอัจฉริยะที่นำมาใช้ในแปลงเรียนรู้ ได้แก่ เทคโนโลยีการใช้เครื่องปรับระดับหน้าดิน ด้วยระบบ GIS และระบบเลเซอร์ ทำให้พื้นที่มีความสม่ำเสมอ การใช้ระบบเซนเซอร์อัจฉริยะที่มีต้นทุนต่ำสำหรับวัดค่าอุณหภูมิ ความชื้นในอากาศ และความชื้นในดิน สามารถใช้เป็นข้อมูลในการจัดการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้อากาศยานไร้คนขับ การใช้เครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชแบบอุโมงค์ลม สามารถประหยัดสารเคมีได้มากกว่าร้อยละ 20 และมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่าเครื่องพ่นสะพายหลัง 15 เท่า และ การใช้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับติดกล้องหลายช่วงคลื่น เพื่อติดตามตรวจสอบการระบาดของโรคไวรัสใบด่างถั่วเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3 ที่ให้ผลผลิตสูง 232 กิโลกรัมต่อไร่ เมล็ดใหญ่ การสุกแก่ของฝักสม่ำเสมอใกล้เคียงกัน จึงเหมาะสำหรับการใช้เครื่องเก็บเกี่ยว คุณภาพแป้งเหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นวุ้นเส้น การใช้ปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียม ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่สามารถสร้างปมรากกับพืชตระกูลถั่ว และเจริญอยู่ภายในปมรากแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน สามารถลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนได้ 50-100 % โดยปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรได้มีการพัฒนารูปแบบปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมชนิดเหลว ซึ่งจะช่วยให้การยึดติดกับเมล็ดพันธุ์ดีขึ้นและใช้ง่ายขึ้น เนื่องจากไม่ติดรูจานหยอดของเครื่องปลูกทำให้ใช้สะดวกมากขึ้น

กรมวิชาการเกษตร กำหนดจัดงานวันถ่ายทอด "เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะการผลิตถั่วเขียว" ในวันที่ 2 มีนาคม 2566 นี้ ซึ่งภายในงานจะมีการสาธิตการใช้ปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมชนิดเหลว การสาธิตการพ่นสารด้วยอากาศยานไร้คนขับ เครื่องพ่นสารแบบอุโมงค์ลมในการพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช สาธิตอากาศยานไร้คนขับติดกล้องหลายช่วงคลื่นเพื่อติดตามตรวจสอบโรคไวรัสใบด่างถั่วเขียวพร้อมกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ระหว่างกลุ่มเกษตรกร นักวิชาการจากกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร มหาวิทยาลัย สหกรณ์การเกษตร ผู้ประกอบการเครื่องจักรกลการเกษตร และผู้รวบรวมผลผลิตถั่วเขียวรายใหญ่ของประเทศ ทำให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านการผลิตและการตลาดอย่างครบวงจร

ในปี 2567 กรมวิชาการเกษตรจะขยายผลเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยและเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะการผลิตถั่วเขียวในพื้นที่ปลูกอื่นของจังหวัดเพชรบูรณ์ และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเขียวในพื้นที่ใกล้เคียงตามนโยบายของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งผลให้ผลผลิตถั่วเขียวของประเทศเพิ่มขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของชุมชนและประเทศดีขึ้น รวมทั้งเป็นต้นแบบในการใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะในการผลิตพืชอื่นต่อไป

ที่มา: กรมวิชาการเกษตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ