นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) (WINMED) ผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องและชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2565 มีรายได้รวม 703.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.58% เทียบปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 538.67 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ และมีกำไรสุทธิ 60.67 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากการรับรู้รายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัยระบบเจริญพันธุ์ ของผู้เข้ารับการตรวจสุขภาพในโรงพยาบาล ที่ส่งผลให้การตรวจมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น และการได้รับการสนับสนุนจากโครงการ (สปสช.) ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของเซลล์และโมเลกุลที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการสั่งซื้อน้ำยาเพื่อใช้ในห้องปฎิบัติการเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีรายได้จากกลุ่มสินค้าใหม่ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 เช่น ชุดตรวจแอนติเจน Antigen Test Kits (ATK) ที่บริษัทฯ ได้นำมาจำหน่ายตั้งแต่ต้นปีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนผลงานให้เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0569 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม 2566
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ เตรียมลงทุนในโครงการส่วนต่อขยายจากห้องแล็บแบบครบวงจร เพื่อเสริมทัพรายได้ธุรกิจเดิมของบริษัท ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการที่เหมาะสม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงไตรมาส 3
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ AVA ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นสินค้าเรือธงของบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างการรับรู้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะ เจาะกลุ่ม B2C ผ่านช่องทางการขายออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Tiktok, Youtube, Twitter,Line OA และโซเชียลอีคอมเมิรช์ และยังมีสินค้าใหม่ที่อยู่ในระหว่างการขอขึ้นทะเบียนอีกหลายรายการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกวางจำหน่ายได้ในปี 2566
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WINMED กล่าวอีกว่า แนวโน้มธุรกิจในปีนี้จะเป็นปีที่มีการเติบโตที่โดดเด่นกว่าปีที่ผ่านมา และยอดรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มสินค้าเดิม ทั้งนี้มีการปรับแผนและกลยุทธ์ให้เข้ากับเทรนด์ธุรกิจเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน เนื่องจากประชาชนมีความตื่นตัวด้านสุขภาพและหันมาใส่ใจตรวจรักษากันมากขึ้น หลังจากวิกฤติการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้เข้ารับการตรวจรักษา และวินิจฉัยโรค ในโรงพยาบาลต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นใจแนวโน้มปี 66 รายได้จะพุ่งแตะที่ระดับ 30-40% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามแผนงานที่วางไว้
ที่มา: วินเนอร์ยี่ เมดิคอล