วช. หนุนงานวิจัยพัฒนาสุขภาพแนวใหม่สาหร่ายอาร์โธรสไปรา พลาเทนซิส ตัวช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อภายหลังการออกกำลังกายไม่ให้บีบตัวผิดปกติจนอ่อนแรง

พุธ ๐๑ มีนาคม ๒๐๒๓ ๑๖:๒๓
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กะทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้จุดประกายเมืองไทยให้เกิดผลงานวิจัยดี ๆ จากทีมงานนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อขยายผลสู่การต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เหมือนกับงานวิจัยการพัฒนาสุขภาพแนวใหม่จากสาหร่ายอาร์โธรสไปรา พลาเทนซิส" (โครงการต่อเนื่อง) ของ ดร.สราวุธ สัตยากวี แห่ง มหาวิทยาลัยนเรศวร จนก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์สุขภาพชนิดเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติสามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์กล้ามเนื้อที่มีการเสียหายจากการเกิดอนุมูลอิสระ หรือ ROS (reactive oxygen species) หลังจากการคลายตัวของกล้ามเนื้อภายหลังการออกกำลังกายแล้ว เพื่อช่วยไม่นำไปสู่การบีบตัวแบบผิดปกติของกล้ามเนื้อจนอาจเกิดความเสียหาย และส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เมื่อยล้าได้

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่าน วช. เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ให้การสนับสนุนเรื่องระบบสาธารณสุขตลอดมา วช. ต้องการให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพแข็งแรงขึ้น จึงได้สนับสนุนงานวิจัย "การพัฒนาสุขภาพแนวใหม่จากสาหร่ายอาร์โธรสไปรา พลาเทนซิส" (โครงการต่อเนื่อง) ของ ดร.สราวุธ สัตยากวี แห่งมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ได้มีต่อยอดงานวิจัย ไปสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบสำคัญ คือ สารต้านอนุมูลอิสระจากสาหร่ายอาร์โธรสไปรา พลาเทนซิส

ดร.สราวุธ สัตยากวี หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวถึง ผลงานวิจัยดังกล่าวว่า เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ สารต้านอนุมูลอิสระจากสาหร่ายอาร์โธรสไปรา พลาเทนซิส เพราะที่ผ่านมา แม้การออกกำลังกายจะมีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ทว่าการบีบและคลายตัวของกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายนั้นก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ หรือ ROS (reactive oxygen species) จึงนำไปสู่การบีบตัวแบบผิดปกติของกล้ามเนื้อจนอาจเกิดความเสียหาย ผลที่ตามมาอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เมื่อยล้า และอาจส่งผลเสียต่อเนื่องไปสู่เนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องได้ ทางคณะผู้วิจัยจึงได้มีการพัฒนาสารต้านอนุมูลอิสระจากสาหร่ายอาร์โธรสไปรา พลาเทนซิส ซึ่งมีอนุภาคที่เล็กและได้พิสูจน์ในระดับเซลล์ (in vitro) แล้วว่าสามารถฟื้นฟูเซลล์กล้ามเนื้อที่มีการเสียหายหลังจากได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเมื่อตอนทำโครงการวิจัยที่ผ่านมา โครงการวิจัยต้องการนำสารสำคัญที่ผลิตขึ้นมาพัฒนาไปสู่การเป็นเครื่องดื่มฟื้นฟูร่างกาย เนื่องจากได้มีการดำเนินงานทดสอบประสิทธิภาพของการฟื้นฟูกล้ามเนื้อในระดับสัตว์ทดลองเพื่อหาข้อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มหนูทดลองที่ไม่ผ่านการออกกำลังกาย และหนูทดลองที่ผ่านการออกกำลังกาย ปรากฏว่าหนูทดลองในกลุ่มออกกำลังกายที่ได้รับเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบสารต้านอนุมูลอิสระอนุภาคเล็กจากสาหร่ายอาร์โธรสไปรา พลาเทนซิส ติดต่อกัน มีความแข็งแกร่ง (stamina) มากกว่าหนูทดลองในกลุ่มเดียวกันที่ไม่ได้รับเครื่องดื่มฯ อย่างเด่นชัด ภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ ขณะที่เครื่องดื่มฯ ส่งผลให้หนูทดลองในกลุ่มไม่ออกกำลังกายแข็งแรงขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ปริมาณสารอนุมูลอิสระในกระแสเลือดของหนูทดลองที่ได้รับเครื่องดื่มฯ ต่ำกว่ากลุ่มหนูที่ไม่ได้รับเครื่องดื่มฯ ดังกล่าว

เมื่อศึกษาสารบ่งชี้ความเสียหายของกล้ามเนื้อจากกระแสเลือดของหนูทดลองพบว่า ปริมาณสารบ่งชี้ความเสียหายของกล้ามเนื้อในหนูทดลองที่ผ่านการออกกำลังกายแต่ไม่ได้รับเครื่องดื่มฯ อยู่ในระดับสูงกว่าหนูทดลองที่ผ่านการออกกำลังกายและได้รับเครื่องดื่มฯ ติดต่อกัน เช่นเดียวกับระดับสารบ่งชี้ความเสียหายของกล้ามเนื้อลดลงในหนูทดลองที่ไม่ผ่านการออกกำลังกายแต่ได้รับเครื่องดื่มฯ เมื่อเทียบกับหนูทดลองที่ไม่ผ่านการออกกำลังกายและไม่ได้รับเครื่องดื่มฯ ประกอบกับได้ศึกษาการสลายตัวของกล้ามเนื้อในระดับการแสดงออกของยีนพบว่า หนูทดลองที่ผ่านการออกกำลังกายแต่ไม่ได้รับเครื่องดื่มฯ มีระดับการแสดงออกของยีนที่บ่งชี้การสลายตัวของกล้ามเนื้อสูงกว่าหนูทดลองที่ผ่านการออกกำลังกายและได้รับเครื่องดื่มฯ แต่ข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ หนูทดลองที่ไม่ผ่านการออกกำลังกายและไม่ได้รับเครื่องดื่มฯ มีการแสดงออกของยีนที่บ่งชี้การสลายตัวของกล้ามเนื้อในระดับสูงมาก เปรียบเทียบกับหนูทดลองที่ไม่ผ่านการออกกำลังกายแต่ได้รับเครื่องดื่มฯ ที่มีระดับการแสดงออกของยีนที่บ่งชี้การสลายตัวของกล้ามเนื้อต่ำกว่าอย่างเด่นชัด นอกจากนี้การได้รับเครื่องดื่มฯ มีส่วนช่วยเพิ่มระดับของเอนไซม์ที่มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระในหนูทดลองทั้ง 2 กลุ่ม

จากความสำเร็จของโครงการวิจัย ได้นำไปสู่การใช้ประโยชน์ที่เกิดจากนักวิจัย โดยนักวิจัยได้มีการจัดตั้งบริษัทเพื่อนำผลงานวิจัยที่ได้มาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในด้านการสื่อสาร ปริมาณที่เหมาะสม และบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มีความใหม่และการรับรู้ถึงคุณประโยชน์อยู่ในวงจำกัด จึงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การตลาดอย่างรอบคอบ พร้อมกันนี้ นักวิจัยได้ดำเนินการศึกษาคุณสมบัติ และประสิทธิภาพของสารที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมคุณประโยชน์ที่จะได้รับของแต่ละช่วงวัย อีกต่อไป

ที่มา: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ