นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงกิจกรรมรณรงค์ "ลูกหลานอุ่นใจ ผู้สูงวัยได้รับภูมิคุ้มกันโควิด" โดยภายในงานมีบริการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ดังต่อไปนี้ 1.กลุ่มโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคไตเรื้อรังขั้นที่ 3 ขึ้นไป 4.โรคหลอดเลือดสมอง 5.โรคมะเร็งที่ให้เคมีบำบัด/รังสีบำบัด 6.โรคเบาหวาน และ 7.โรคอ้วนที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมหรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และกลุ่มที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ รวมทั้งบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ชนิดไฟเซอร์ (Pfizer) และนิทรรศการโรคที่เกิดหลังน้ำท่วม
"สคร.12 สงขลา ขอเชิญชวนพาบุคคลที่คุณรัก กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ไปฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด 19 หรือได้รับวัคซีนโควิด 19 เข็มสุดท้ายนานกว่า 3 เดือน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดอาการป่วยหนัก และการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19"
LAAB (Long Acting Antibody) คือ ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่ออกฤทธิ์ยาว สามารถเสริมภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ทันทีภายหลังฉีด ทำให้เชื้อไวรัสไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งต่างจากวัคซีนที่ต้องกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเอง โดย LAAB ใช้สำหรับฉีดเพื่อป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ในกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า 40 กิโลกรัม จากข้อมูลล่าสุดของประเทศไทยพบว่า สายพันธุ์ที่มีการระบาดขณะนี้เป็นสายพันธุ์ BA.2.75 ประมาณร้อยละ 86 (ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระหว่างวันที่ 14 - 20 มกราคม 2566) โดยมีข้อมูลในหลอดทดลอง ว่า LAAB สามารถลบล้างฤทธิ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.2.75 (Neutralizing activity) ได้ผลดี ในเวลานี้กระทรวงสาธารณสุขจึงรณรงค์ให้มีการฉีด LAAB กับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรค เรื้อรัง เพื่อเกิดประโยชน์มากที่สุดกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ที่มา: สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา