นายโจเซฟ สุเชาว์วณิช ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR Group เปิดเผยถึงผลดำเนินงานประจำปี 2565 ว่า "บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 8,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 7,260 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 386 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 792% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุนสุทธิ 56 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการที่เหมาะสมและกลยุทธ์การขายที่มีประสิทธิภาพในช่วงสถานการณ์โรคระบาดได้ช่วยให้องค์กรบรรลุผลอย่างรวดเร็วและทันท่วงที
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเท่ากับ 1,805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น ในงบการเงินรวม คิดเป็น 21% เพิ่มขึ้นจาก 16% จากปีก่อนเนื่องจากการบริหารต้นทุนขายสินค้าและต้นทุนการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2566 นี้ บริษัทฯ วางกลยุทธ์เน้นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ " Ready to Eat" & " Ready to Cook" Products อาหารปรุงสุกจากเนื้อเป็ด เพื่อขยายตลาดในประเทศ นอกจากนี้ BR เตรียมขยายตลาดต่างประเทศ มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน BR มีตลาดยุโรป และเอเชียเป็นตลาดหลักในต่างประเทศ โดยใช้ฐานการผลิตที่ประเทศไทย และ ประเทศเนเธอร์แลนด์
อีกทั้ง บริษัทตั้งฯ เป้าหมายรายได้เติบโตในปีนี้ 10% จากปีก่อน จากการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของธุรกิจ และการบริหารจัดการที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศและทั่วโลกเริ่มคลี่คลายลง
BR Group เป็น 1 ในผู้ผลิตเนื้อเป็ดรายใหญ่ของประเทศมากว่า 30 ปี และมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ เนื้อเป็ดแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ และปลายน้ำ คือ ฟาร์มพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์เป็ด โรงฟักไข่เป็ด ฟาร์มเป็ดเนื้อ โรงงานชำแหละและแปรรูปอาหารจากเนื้อเป็ด และธุรกิจอาหารสัตว์ ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ มีจุดเด่นในการผลิต เนื้อเป็ดคุณภาพสูง และ อาหารแปรรูปจากเป็ดพร้อมรับประทาน ระดับพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ในขณะที่บริษัทฯ มีการควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีฐานการผลิตใหญ่ใน 2 ประเทศคือ ประเทศไทย และประเทศ เนเธอร์แลนด์
ที่มา: แบรนด์ เวลท์