ด้าน นายชนน วังตาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AQ กล่าวว่า "ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 65 นับว่าเป็นสัญญาณดีต่อการเติบโตของ AQ และบริษัทย่อยในเครือ โดยรายได้หลักของปี 2565 มาจาก 1.) ธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์แนวราบ คิดเป็น 44.90% ของรายได้รวม 2.)ธุรกิจโรงแรม คิดเป็น 15.08% ของรายได้รวม และ 3.) ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ทางบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในบริษัท เอ็ม เอส ซี ดับเบิลยู จำกัด หรือ "MSCW" เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งดำเนินธุรกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการจากกระทรวงการคลังและควบคุมดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ตั้งแต่บริษัทเข้าลงทุนได้สร้างรายได้ที่คุ้มค่าต่อการลงทุนแล้วเช่นกัน
ด้านรายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก ยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีในรูปแบบของเงินปันผลและมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนนี้ส่งผลให้ AQ ได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น และยังเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี"
"สำหรับ 2566 บริษัทฯ วางแผนที่จะเน้นพัฒนาศักยภาพให้กับทุกกลุ่มธุรกิจผ่านมุมมองและเทคนิคการบริหารของผู้บริหารและทีมงานรุ่นใหม่ เพื่อสร้างโอกาสทำรายได้และการเติบโตให้แก่บริษัทฯ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างยอดขาย ควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงปรับโครงสร้างภายในองค์กรเพื่อสร้างผลงานที่ดียิ่งขึ้นในทุกๆปีอีกด้วย" นายชนน กล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบัน AQ ดำเนินธุรกิจอยู่ 5 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.)ธุรกิจโรงแรม ซึ่งภายใต้การบริหารจัดการของ Aquarius Group จำนวนทั้งสิ้น 4 แห่ง คือ โรงแรม The Tarna Align Resort เกาะเต่า, โรงแรม ShaSa Resort & Residences เกาะสมุย, โรงแรม Malibu Resort & Beach Club เกาะสมุย และ โรงแรมเอลิคซ์ กรุงเทพมหานคร 2.)ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมุ่งลงทุนและพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์แนวราบ 3.)ธุรกิจพลังงานที่ทางบริษัทฯ ได้ลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกร่วมกับ บริษัท กรีนเอิร์ธ พาวเวอร์ ไทยแลนด์ จำกัด หรือ GEP และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง 4.)ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัท เอ็ม เอส ซี ดับเบิลยู จำกัด หรือ MSCW และบริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ PICO ซึ่งได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมไปเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ในสัดส่วนจำนวนหุ้นทั้งหมด 10.80% และ 5.)ธุรกิจกัญชง-กัญชา ที่ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท อีโกรนิกซ์ จำกัด หรือ EGRONIX
ที่มา: บางกอก ออทัม