อุตสาหกรรมอย่างเช่นพลังงานและการคมนาคมมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ในแง่นี้ เนื่องจากเป็นองค์ประกอบขั้นพื้นฐานของระบบการผลิต เครือข่ายการสื่อสารจำเป็นต้องมีความมั่นคงปลอดภัยและเชื่อถือได้เพื่อที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมเหล่านี้ การพัฒนาอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัลกำลังยกระดับขยายเพิ่มขึ้น และเราจะจำเป็นต้องมีเครือข่ายการสื่อสารในการผลิตที่มีแบนด์วิธการส่งถ่ายข้อมูลสูงขึ้นเพื่อรองรับบริการใหม่ๆ อย่างเช่น การตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าอัตโนมัติ การเฝ้าสังเกตทางหลวงอัจฉริยะ และสถานีด่านผ่านทางพิเศษอัจฉริยะ
คุณวินเซนต์ หลิว (Vincent Liu) ประธานฝ่ายการตลาดเครือข่ายองค์กรธุรกิจและการขายโซลูชันระดับโลกของหัวเว่ย กล่าวว่า "ด้วยการใช้หน่วยบริการนำแสง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเนทีฟ ฮาร์ด ไปป์ (Native Hard Pipe หรือ NHP) รุ่นที่ 5 หัวเว่ยได้พัฒนาโซลูชันเครือข่าย NHP ครบวงจรและเปิดตัวพอร์ตฟอลิโอผลิตภัณฑ์ OSU ครบวงจรจากเครือข่ายแกนหลักสู่เครือข่ายย่อย (access network) โซลูชันดังกล่าวนี้มอบฐานการสื่อสารนำแสงที่มั่นคงปลอดภัยและเชื่อถือได้สำหรับบริการบริหารจัดการการผลิต บริการการควบคุมแบบเรียลไทม์ และบริการข้อมูลแบบบูรณาการ"
พอร์ตฟอลิโอผลิตภัณฑ์ OSU ครบวงจรของหัวเว่ยนี้ ประกอบด้วย อุปกรณ์ส่งข้อมูลด้วยแสงที่ได้รับการอัปเกรดยกระดับอย่างสมบูรณ์ อ็อปติกซ์ทรานส์ ซีรีส์อี9600/อี6600 (OptiXtrans E9600/E6600), อุปกรณ์การเข้าถึงด้วยแสง อ็อปติกซ์แอคเซส ซีรีส์อีเอ5800 (OptiXaccess EA5800), อุปกรณ์รับสัญญาณ ณ สถานที่ของผู้ใช้บริการ (CPE) เชิงอุตสาหกรรมตัวใหม่ อ็อปติกซ์สตาร์ อี810 (OptiXstar E810) และเกตเวย์ IoT จับเวลาอัจฉริยะ อ็อปติกซ์สตาร์ ที823อี-ที (OptiXstar T823E-T)
โซลูชันเครือข่าย NHP ครบวงจรของหัวเว่ยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- สร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับการผลิตโดยใช้เนทีฟ ฮาร์ด ไปป์ ครบวงจร: เทคโนโลยีการมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งเวลา (time division multiplexing หรือ TDM) ให้การแยกอิสระของบริการต่าง ๆโดยใช้เนทีฟ ฮาร์ด ไปป์ OSU จากเลเยอร์แกนหลักสู่เลเยอร์ย่อย ด้วยการแทรกแซงเป็นศูนย์และการขัดขวางเป็นศูนย์ระหว่างบริการต่างๆ เช่นนี้ทำให้บริการการผลิตมั่นคงปลอดภัยและเชื่อถือได้
- มอบแบนด์วิดท์การส่งถ่ายสูงพิเศษที่มุ่งสู่อนาคต: เทคโนโลยีการวางลำดับชั้นการส่งสัญญาณดิจิทัลแบบประสานเวลา (Synchronous Digital Hierarchy หรือ SDH) ที่เป็นกระแสหลักบนเครือข่ายที่เปิดใช้งานอยู่รองรับแบนด์วิธการส่งถ่ายข้อมูลสูงสุด 10 กิกะบิตต่อวินาที ขณะที่ OSU สามารถให้แบนด์วิธการส่งถ่ายข้อมูลได้สูงสุด 800 กิกะบิตต่อวินาทีต่อความยาวคลื่นและ 96 เทระบิตต่อวินาทีต่อไฟเบอร์ ทั้งนี้เพื่อเร่งบริการดิจิทัลและอัจฉริยะ
- ผนวกบริการดั้งเดิมด้วยความเข้ากันได้แบบไปข้างหน้า: แพลตฟอร์มส่งข้อมูลด้วยแสงแบบ 6 ใน 1 ของหัวเว่ยสามารถทำงานเข้ากันอย่างสมบูรณ์กับการกล้ำรหัสของพัลส์ (Pulse code modulation หรือ PCM), การวางลำดับชั้นการส่งสัญญาณดิจิทัลแบบเกือบประสานเวลา (Plesiochronous digital hierarchy หรือ PDH) และบริการ SDH บนเครือข่ายที่เปิดใช้งานอยู่แล้ว การสอดประสานเช่นนี้เอื้อต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของระบบบริการที่มีอยู่เดิมและลดต้นทุนการลงทุน
- ทำให้การบำรุงรักษาและการดำเนินการ (O&M) เครือข่ายแกนหลักเป็นเรื่องง่ายด้วยการบริหารจัดการที่รวมในที่เดียว: บริการ OSU เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาและการดำเนินการได้ 50% โดยสนับสนุนการให้บริการแบบคลิกเดียว การระบุตำแหน่งความบกพร่องแบบคลิกเดียว ตลอดจนการจำลองภาพและบริหารจัดการบริการทั้งเครือข่าย จากเครือข่ายแกนหลักสู่เครือข่ายย่อย
โซลูชัน NHP ของหัวเว่ยได้รับการชื่นชมอย่างกว้างควางในอุตสาหกรรมพลังงานและคมนาคม โดยมีการติดตั้งใช้งานโดยลูกค้าในกว่า 80 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก เพื่อช่วยสร้างฐานการสื่อสารด้วยระบบนำแสงสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน NHP ของหัวเว่ยได้ที่ https://e.huawei.com/en/solutions/enterprise-optical-network/industry-optical-transport-network
ติดต่อ
[email protected]
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2013171/image_986294_40539252.jpg
คำบรรยายภาพ - คุณวินเซนต์ หลิว ประธานฝ่ายการตลาดเครือข่ายองค์กรธุรกิจและการขายโซลูชันระดับโลกของหัวเว่ย