JSP ออเดอร์ OEM พุ่ง หลังกำลังซื้อฟื้นตัวคึกคัก ส่งซิก Q1/66 สดใส รับอานิสงส์ "ช้อปดีมีคืน-ท่องเที่ยวจีน" ดันยอดขายโต ล่าสุดประกาศงบ Q4/65 พลิกฟื้นมีกำไรโต 326.4%

อังคาร ๐๗ มีนาคม ๒๐๒๓ ๐๙:๐๘
บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JSP กำลังซื้อฟื้นตัวเด่น หนุนออเดอร์ "รับจ้างผลิต หรือ OEM" โตแรง รับอานิสงส์ สองเด้ง "ช้อปดีมีคืน-ท่องเที่ยวจีน" ดันยอดขายพุ่ง ตั้งธงรายได้ทั้งปีโต 20-30% ล่าสุดประกาศงบ Q4/65 สัญญาณดี พลิกฟื้นมีกำไรสุทธิจำนวน 10.7 ลบ. เทียบกับ Q3/65 ที่ขาดทุนสุทธิ 4.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 326.4

ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20-30% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สามารถเป็นไปได้ หลังจากบริษัทได้ลงทุนสร้างโรงงานไปหมดแล้วในปี 2565 ที่ผ่านมา แต่คาดว่าโรงงานใหม่จะหนุนการเติบโตในช่วงต่อจากนี้ และจะเก็บเกี่ยวผลการลงทุนเข้ามา

"การเติบโตในระดับ 20-30% เป็นระดับที่เราค่อนข้างมั่นใจมากว่าจะเติบโตได้ เพราะขยาย Capacity ไปหมดแล้ว โดยกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น คือ ยา อาหารเสริม ไม่รวมโรงงานสกัด เนื่องจากยังรอความชัดเจนของข้อกฎหมาย ในขณะที่ไลน์การผลิตอาหารเสริมสัตว์ ซึ่งเป็นไลน์ผลิตใหม่ที่เราอยู่ในช่วงขอใบอนุญาตผลิต จึงมองว่าการเติบโตที่ 20-30% เป็นไลน์ผลิตสินค้าเดิม ที่เราทำการขยาย Capacity พร้อมรับโอกาสรับกำลังซื้อและเศรษฐกิจฟื้นตัวทันที" ดร.สิทธิชัย กล่าว

ปัจจุบันสัดส่วน OEM มีออเดอร์เกิน 50% ซึ่งบริษัทมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์สินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (Own Brand) คาดปี 2566 จะเติบโตสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากบริษัทมีผลิตภัณฑ์ Own Brand ติดตลาด และสามารถสร้างยอดขายให้กับบริษัทได้ค่อนข้างสูงในอนาคต คาดสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ Own Brand จะเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ OEM ที่ 50:50 จากปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายที่ 38.2%

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 คาดว่าจะออกมาดีมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 เนื่องจากปัจจุบันยอดขายในเดือนม.ค.2566 เพิ่มขึ้นมากจากผลิตภัณฑ์ยาน้ำและ อาหารเสริมงาดำรำข้าว ที่บริษัทร่วมมือกับ "ทีวีไดเร็ค" หรือ TVD ในการเจาะตลาด D2C และไตรมาสแรกปีนี้ยังได้รับอานิสงส์จากโครงการ "ช้อปดีมีคืน" ซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ขณะที่การท่องเที่ยวจีนที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทำให้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ช่วยผลักดันยอดขายคึกคัก ล่าสุดลูกค้า OEM เตรียมออกแบรนด์ใหม่ รองรับทัวร์จีนเข้าไทย ซึ่งจะเป็นสินค้าประเภทอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ส่วนมากใช้วัตถุดิบหรือองค์ความรู้ของประเทศไทย ซึ่งหาไม่ได้ในประเทศจีน

หลังจากที่ JSP ได้ลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตไลน์ที่ 2 คาดว่าหลังเปิดใช้งานไลน์ที่ 2 จะทำให้ผลการดำเนินงานของ JSP เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับในส่วนของผลิตภัณฑ์ยาน้ำปัจจุบัน JSP มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2 ล้านขวดต่อเดือน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ มากกว่า 7 แสนขวดต่อเดือน และในปี 2566 มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก

ล่าสุดประกาศผลงานในงวดไตรมาส 4/65 ผลประกอบการพลิกฟื้นมีกำไรสุทธิ จำนวน 10.7 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/65 ที่ขาดทุนสุทธิ 4.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 326.4 และมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาส 3/65 ร้อยละ 4.0 ขณะที่กำไรสุทธิในงวดไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้นร้อยละ 166.3 เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/64 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 4 ล้านบาท

ในงวดไตรมาส 4/65 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขาย 141.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.8 จากงวดไตรมาส 3/65 สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันประเภท OEM เพิ่มสูงขึ้น และจากการขยายสถานที่ผลิตในโรงงานกรุงเทพฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นงวดไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาส 3/65 ร้อยละ 4.0 เนื่องจากรายได้จากผลิตภัณฑ์ประเภท OEM และ Own Brand เพิ่มสูงขึ้น เพราะกลุ่มบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยาแผนปัจจุบัน แต่กลุ่มบริษัทก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าใช้จ่ายพนักงาน และค่าบริการที่ปรึกษาและวิชาชีพ

ขณะที่รายได้จากการขายงวดไตรมาส 4/65 เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/64 เพิ่มขึ้น 29.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 26.8 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการขยายกำลังการผลิตของยาแผนปัจจุบันเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

"ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 65 กลุ่มบริษัทพบกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนหลายปัจจัย ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เช่น กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจัดการได้บริหารจัดการเพื่อลดผลกระทบทางลบจากสถานการณ์ดังกล่าว เช่น การขยายช่องทางการตลาดทั้งทางโทรทัศน์และออนไลน์ การควบคุมต้นทุนวัตถุดิบและค่าก่อสร้าง เป็นต้น

ทั้งนี้แนวโน้มภาพรวมในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 ปรับตัวดีขึ้น ผลการดำเนินการของกลุ่มบริษัทในงวดไตรมาส 4/65 จึงมีแนวโน้มพลิกฟื้นจากงวดที่ผ่านมา" ดร.สิทธิชัย กล่าว

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ