บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ "Pi" "พาย" มองว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.12% นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลแถลงของประธาน FED ในคืนนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.4% หลังจากผู้บริหาร Chevron ออกมาระบุว่าภาวะตลาดน้ำมันค่อนข้างตึงตัว
Market Outlook
บรรยากาศการลงทุนเริ่มดูผ่อนคลายมากขึ้นจากการปรับขึ้นของ Dow Jones ในวันศุกร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปรับตัวขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ มองการปรับฐานลงมาของ SET INDEX จากจุดสูงสุดถึงล่าสุดราว 4.6% Price In ประเด็นลบด้านผลประกอบการและตอบรับกับเงินเฟ้อสหรัฐฯไปพอสมควร ขณะเดียวกัน US Bond Yield ก็เริ่มชะลอตัวลง จึงเชื่อว่า SET จะเริ่มฟื้นตัวได้บ้างแต่ยังให้น้ำหนักเป็นเพียงการฟื้นตัวช่วงสั้นเนื่องจากระยะถัดไปยังเต็มไปด้วยหลายความเสี่ยง สัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญติดตาม (1) วันอังคารประธาน FED กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินครึ่งปีต่อคณะกรรมการใน Washington DC เชื่อว่าตลาดจะไปให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ย หากส่งสัญญาณผ่อนคลายตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อ (2) วันพุธสหรัฐฯมีกำหนดรายงานการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP Bloomberg คาดไว้ที่ 1.95 แสนราย หากต่ำกว่าคาดจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น (3) การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสำคัญเพราะมีผลสูงกับตลาด Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.06 แสนราย อัตราการว่างงานที่ 3.4% หากต่ำกว่าคาดจะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น ในประเทศติตตามเงินเฟ้อไทยประจำเดือน ม.ค. ในช่วงเช้าวันอังคาร Bloomberg คาดไว้ที่ 4.1%YoY หากต่ำกว่าคาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินบาทและทิศทาง Foreign Fund Flow ในส่วนของ Sector ที่น่าสนใจสำหรับการ Trading ในการฟื้นตัวมองไปที่ Domestic Play เนื่องจากทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศค่อนข้างชัดเจน เชิงกลยุทธ์เลือก Bank (BBL KBANK SCB TTB TISCO) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT MINT SHR VRANDA) ศูนย์การค้า (CPN) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ขนส่ง (BEM) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF RATCH) เครื่องดื่ม (ICHI) ร้านอาหาร (M) สินค้า IT (COM7) ประเมินกรอบ SET สัปดาห์นี้ที่ 1590 - 1630
Pi Stock Picks
AOT (ถือ / ราคาเป้าหมาย 78.00 บาท)
ราคาหุ้นปรับฐานลงมาจนเริ่มน่าสนใจสำหรับ Trading ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่งซึ่งผลประกอบการกำลังฟื้นตัวตามการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยคาดว่าผลประกอบการจะเห็นการฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะตั้งแต่ FY2Q23 เป็นต้นไปที่จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาอย่างมาก ขณะที่ในช่วง FY3Q23 จะสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการแล้วทำให้จะเก็บการก้าวกระโดดของผลประกอบการอย่างมาก
CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท)
ในแง่การดำเนินงาน CPN ได้รับผลดีจากมาตรการเปิดประเทศของจีนที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างมาก โดยปี 23 เราประเมินรายได้อยู่ที่ 40,917 ลบ. และกำไรสุทธิ 12,855 ลบ. ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปี 19 แล้ว ส่วนกำไรงวด 4Q22 ออกมาใกล้เคียงคาดที่ระดับ 2,800 ลบ.
ที่มา: บางกอก ออทัม