คิงส์เมน "K"เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก ผลงานปี65 พลิกกำไร สบช่องประกาศแจกฟรีวอแรนต์ " K-W2" ในอัตรา 6 : 1

พุธ ๐๘ มีนาคม ๒๐๒๓ ๑๐:๑๑
บมจ. คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. "K" เสิร์ฟข่าวดี ผลการดำเนินงานเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก โชว์งบปี 2565 กวาดรายได้จากการให้บริการ 847.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นรวม 8% (YoY) หลังปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ทั้งในส่วนของธุรกิจ Interior และปิดกิจการบริษัทย่อยทั้งเมียนมาร์และกัมพูชา หนุน Q4/65 ทำกำไรได้สูงสุด แตะ 20.55 ล้านบาท ส่งผลให้ตัวเลขกำไรรวมทั้งปีพลิกเป็นกำไร 1.95 ล้านบาท สบช่องประกาศแจกวอร์แรนต์ฟรี "K-W2" จำนวนไม่เกิน 79,922,412 หน่วยให้ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 6 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ พร้อมประกาศเดินหน้าแผนปี 2566 ลุยรับงาน Interiors ที่เชี่ยวชาญ หมุนรอบเร็ว มาร์จิ้นสูง ควบคู่กับงาน Exhibition ประเภท Pop-Up Store ในกลุ่มแบรนด์ลักซ์ชัวรี่รายใหญ่ ดันรายได้ทั้งปีแตะ 780 ล้านบาท

บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) ("K") รายงานต่อตลาหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงผลประกอบการงวดปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565) ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 847.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% (YoY) ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาดที่มียอด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 277.88 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นรวม 48% (YOY) จากงานกิจกรรมทางการตลาดที่เริ่มฟื้นตัว

ขณะที่สายงานธุรกิจก่อสร้างตกแต่งภายใน (Interior) มีสัดส่วนลดลงกว่า -44% เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับโครงสร้าง เพื่อให้สอดรับกับภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยเน้นรับงานโครงการที่มีขนาดเล็กลง และเน้นรับงานในกลุ่มลูกค้าที่เป็นระดับลักซ์ชัวรี่ (Luxury) ที่สามารถบริหารจัดการได้ทั่วถึง ส่งมอบงานได้ตามกำหนดและเน้นทำกำไรให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ภายใต้แผนการปรับกลยุทธ์ โดยการปรับโครงสร้างธุรกิจก่อสร้างตกแต่งภายใน (Interior) และปิดกิจการบริษัทย่อยทั้งเมียนมาร์และกัมพูชา ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 มีกำไร 20.55 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลสะท้อนถึงปี 2565 ให้พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ ที่ระดับ 1.95 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. ครั้งที่ 2 ("K-W2") จำนวนไม่เกิน 79,922,412 หน่วยให้ผู้ถือหุ้นเดิม โดยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย ในอัตรา 6 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดย"K-W2" จะมีอายุ 1 ปี นับแต่วันที่ออกและเสนอขาย สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในทุกๆ 3 เดือน และมีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 0.80 บาทต่อหุ้น

และที่ประชุม ยังมีมติพิจารณาอนุมัติยกเลิกการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ ของบริษัท ("หุ้นกู้แปลงสภาพ") มูลค่าการออกเสนอขายรวมไม่เกิน 300 ล้านบาท ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง ได้แก่ Advance Opportunities Fund ("AO Fund") และ Advance Opportunities Fund 1 ("AO Fund 1") เนื่องจากมองว่า การเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าว มีมูลค่าสูง และระยะเวลาค่อนข้างนาน ดังนั้นบริษัทฯจึงมีมติอนุมัติเห็นควรให้ยกเลิกการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ดังกล่าว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ และต่อผู้ถือหุ้นในอนาคต

ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2566 นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ "K" เปิดเผยว่า ภายหลังการเศรษฐกิจได้กลับมาฟื้นตัว งานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions) และธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors) กลับมาคึกคักขึ้น ดังนั้นในปีนี้ บริษัทฯจึงปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในส่วนงาน Interiors โดยลดขนาดงานลง หันมาเน้นรับงานระยะสั้น-ระยะกลางมากขึ้น รวมถึงจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นระดับลักซ์ชัวรี่ (Luxury) มากขึ้น อาทิ งานประเภท Pop-Up Store ในกลุ่มแบรนด์ลักซ์ชัวรี่รายใหญ่ (งานออกร้านต่างๆ ที่จะจัดในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นพื้นที่ให้แบรนด์นำเสนอความโดดเด่นในแบบของตัวเอง) โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้หันมาให้บริการกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมองว่างานประเภทดังกล่าว อยู่ในกรอบระยะเวลาในการการดำเนินงานไม่นานเกินไป ซึ่งสามารถหมุนรอบของกระแสเงินสดที่ไว และมีมาร์จิ้นที่ดี

ขณะเดียวกันในช่วงเดือนมีนาคม 2566 "K"จะมีงานโปรเจกต์ Motor Show ในส่วนการจัดบูธพิเศษเท่านั้น โดยเบื้องต้นได้วางเป้าหมายจะมีรายได้จากงานดังกล่าว ประมาณ 100 ล้านบาท และบริษัทฯคาดว่ามีงานโปรเจกต์ใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อรับงานอีกกว่า 10 ราย และคาดว่าจะสามารถสรุปดีลใหม่ได้ในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมธุรกิจในปี 2565 ที่เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก ประกอบกับแผนเดินเกมรุก ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้บริษัทฯเชื่อมั่นว่า ในปี 2566 "K" จะกลับมาเทิร์นอะราวด์ ได้อีกครั้ง พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ แตะระดับ 850 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ มาจาก 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มงาน Interiors ประมาณ 15-20% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่มงาน Exhibition (เอ็กซิบิชั่น) และงาน Event (อีเว้นท์) ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) รวมมูลค่า 400 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปี 2566 เกือบทั้งหมด

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ