สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ จังหวัดเชียงใหม่ แนวโน้มกลับมาคึกคักมากขึ้นจากการเปิดประเทศเมื่อต้นปี จากจำนวนชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเชียงใหม่มากถึง 5.46 ล้านคน จำนวนเที่ยวบินสูงขึ้น 90% ในปี 2565 รวมถึงรัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมสร้างสนามบิน เชียงใหม่ อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต2 ภายในปี 2568 รองรับการขยายตัวของเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น จากยอดเข้าพักโรงแรมมากถึง 65% หรือเติบโตสูงขึ้นถึง 35% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนดีมานด์บวกของชาวต่างชาติอย่างมาก ที่เป็นทั้งกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มองหาคอนโดมิเนียมเป็นบ้านหลังที่สองในประเทศไทย รวมถึงเพื่อการลงทุนที่ได้รับอัตราผลตอบแทนค่าเช่า (Rental yield) ที่ดีกว่าลงทุนในประเทศของตนเอง
"แสนสิริ เป็นผู้นำอสังหาฯรายใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ พัฒนาโครงการมาแล้วกว่า 10 โครงการ ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว ประสบความสำเร็จสร้างยอดขายจากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้อย่างล้นหลาม และ Sold Out ปิดการขายรวดทุกโครงการ โดยโครงการที่มียอดขายชาวต่างชาติสุงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ดีคอนโด ริน, ดีคอนโด พิงค์ และ ดีคอนโด นิม แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าชาวจีน 50% ฮ่องกง 5% ไต้หวัน 2% และ สัญชาติอื่นๆ ทั้งยุโรปและในเอเชีย 43% ปัจจัยความสำเร็จมาจากความแข็งแกร่ง กลยุทธ์แข่งขันด้านจุดแข็งของบริการหลังการขาย Sansiri Service แบบ Worry Free การดูแลของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่บริหารดูแลโครงการตั้งแต่ลูกค้าเข้าอยู่ รวมทั้งการปล่อยเช่าและขายต่อ ด้วยทีมขายและ Agents ศักยภาพ ผ่านการขายรูปแบบใหม่ทั้งทาง Virtual และ Live Streaming ตลอดจนผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี โดยในปีนี้ เสริมแกร่งโดยจับมือพันธมิตรตัวแทน ขายอสังหาฯรายใหญ่ ขายอสังหาฯรูปแบบใหม่แบบ Master Agent ที่มีเน็ตเวิร์คทีมงานงานแข็งแกร่งครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญช่วยผลักดัน ให้แสนสิริพุ่งสู่เป้ายอดขาย 12,000 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน" ไปรยา กล่าวเสริม
มร. คิงสตัน ไล ประธานอำนวยการ บริษัท ไนท์สบริดจ์ พาร์ทเนอร์ จำกัด บริษัทโบรกเกอร์ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากประเทศฮ่องกง กล่าวว่า "เรามองเห็นโอกาสจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน และ ฮ่องกง ที่มองหาที่อยู่อาศัยนอกประเทศไว้เพื่อลงทุน และเป็นบ้านหลังที่สองในไทย จากราคาที่จับต้องได้ของ อสังหาฯประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดยอดนิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจีนและฮ่องกง รวมถึง แบรนด์แสนสิริและบริการหลังการขายที่ชาวต่างชาติให้ความเชื่อมั่นยอมรับ ส่งผลให้มีอัตราการปล่อยเช่าสูงถึง 7% ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่ดีกว่าในประเทศของตนเอง รวมถึงโลเคชั่นของโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ห้างเซ็นทรัล"
เดอะ เบส ไฮท์-เชียงใหม่" (THE BASE Height-Chiang Mai) คอนโดมิเนียมตึกสูงตึกแรกจากแสนสิริในเชียงใหม่ สูง 31 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัย 630 ยูนิต ในรูปแบบ 1 ห้องนอน เริ่ม 29.25 - 46.00 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน เริ่ม 53.50 - 56.50 ตร.ม. มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท ทำเลดีที่สุด ตั้งอยู่บนถนนแก้วนวรัฐ ใกล้เซ็นทรัล เฟสติวัล* เพียง 3 นาที รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ได้แก่ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า เชียงใหม่ 2, โรงพยาบาลเทพปัญญา, โรงพยาบาลแมคคอร์มิค, โรงพยาบาลอินเตอร์เมดและโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ ใกล้สถานศึกษาชั้นนำของจังหวัด เช่น โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยและโรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่ (CMIS) ที่สะดวกต่อการเดินทางเข้า-ออกเมืองและง่ายต่อการเดินทางข้ามจังหวัดไปเชียงราย, ลำพูนและลำปาง ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยเองและลงทุน กับราคาเริ่มต้น 2.39 ลบ.* เฉลี่ย 84,000 บาท/ตร.ม. และอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) เฉลี่ย 6% ด้านอัตราส่วนต่างกำไรจากการขายต่อ (Capital Gain) เฉลี่ยสูงถึง 10% พัฒนาภายใต้แนวคิด 'UPLIFT MY LIFE…เต็มที่กับชีวิตมุมใหม่' กับดีไซน์สไตล์ 'Modern Lanna' ที่ผสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้เข้ากับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ มีการใช้สีสันมากขึ้นในพื้นที่ภายใน เพื่อเพิ่มความสนุก แต่ยังคงความสุขุม ด้วยสีเทาของตัวอาคารที่ลงตัวกับบริบทของเชียงใหม่ มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางขนาด 2,000 ตร.ม. ครบครันลงตัวกับทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Sky Garden สวนส่วนกลางชมวิวดอยสุเทพได้แบบ 360 องศา, Rooftop Theatre ที่แรกของการดูหนังใต้แสงดาวที่เชียงใหม่ และ Co-Working Lounge การทำงานแบบชิลล์ ๆ ตลอดจนการดูแลและบริการหลังการขายจากแสนสิริ
ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ THE BASE Height-Chiang Mai คลิก http://siri.ly/1KD5LQ3
ที่มา: แสนสิริ